บริษัทรับสร้างบ้าน โมเดิร์น เข้าใจเป็นอย่างดีว่า การสร้างบ้านแต่ละหลังขึ้นมานั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่ได้มีแค่ความพร้อมของที่ดิน แต่ต้องคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศภายในประเทศด้วย
โดยทั่วไปแล้วบ้านแบบโมเดิร์น มักจะดีไซน์ออกมาในแบบรูปทรงเรขาคณิต หรือเรียกอีกอย่างว่าบ้านทรงกล่อง ที่มักจะเห็นได้บ่อยๆ ในฝั่งยุโรปซึ่งมีอากาศหนาว ไม่ค่อยมีพายุฝนกระหน่ำ ไม่ค่อยมีแดดและลม จึงทำให้บ้านสไตล์โมเดิร์นถูกสร้างขึ้นในโซนนั้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบ้านโมเดิร์นในประเทศไทยจริงๆ แล้วก็มีให้เห็นกันอยู่บ้างแต่ด้วยสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยค่อนข้างร้อนชื้น ทำให้ บริษัทรับสร้างบ้านโมเดิร์น ส่วนใหญ่ ต้องคำนึงในเรื่องของการใช้งานและการอยู่อาศัย
เพราะนอกจากจะสร้างบ้านแบบโมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย เท่ และทันสมัยแล้ว ยังต้องมีการปรับให้เข้ากับสภาพอากาศในประเทศไทยด้วย ซึ่งประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตทรอปิคอล มีปัญหาในเรื่องของแดด ความร้อน และฝน ทำให้เหล่าสถาปนิกต้องหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อมาปรับให้เข้ากับบ้านแบบโมเดิร์น โดย บริษัทรับสร้างบ้าน Royal House ก็ได้คำนึงถึงการสร้างบ้านโมเดิร์นเป็นพิเศษ และจะมาแนะนำวิธีกันแดด กันฝน ในการสร้างบ้านโมเดิร์น
บริษัทรับสร้างบ้าน โมเดิร์น ขอแนะนำ 5 วิธีกันแดด กันฝน
1.การเลือกหลังคาในการป้องกันฝน
ปกติแล้วเรามักจะพบเห็นบ้านโมเดิร์นที่มีหลังคาทรงแบนเรียบ เนียนไปกับดีไซน์ของตัวบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วหลังคาที่สามารถระบายน้ำฝนได้จะต้องมีลักษณะที่ลาดเอียงตั้งแต่ 30-45 องศา เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยระบายน้ำฝนได้ดี และต้องใช้วัสดุที่ใช้มุง เช่น แผ่นเมทัลชีท กระเบื้องลอนคู่ หากเป็นหลังคาคอนกรีตควรผสมสารกันรั่วซึมในเนื้อคอนกรีตและน้ำยากั้นรั่วซึมอีกรอบ พร้อมเจาะช่องระบายน้ำฝนให้ไหลลงท่อระบาย
2.เลือกชายคาให้ยื่นยาวเพื่อบังฝนได้ดี
ถึงแม้ว่าชายคาจะเป็นส่วนที่ยื่นเกินออกมาจากตัวบ้าน แต่ก็มีความจำเป็นในการทำหน้าที่บังแดดบังฝนสำหรับบ้านแบบโมเดิร์น และควรมีชายคายื่นอย่างน้อย 110 เซนติเมตรขึ้นไป ชายคาในบ้านแบบโมเดิร์นจะนิยมให้ชายคาแบนเรียบและยื่นออกจากตัวบ้าน นอกจากนี้ฝาผนังขอบประตูหน้าต่างต้องมีคิ้วยื่นออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนเข้าสู่หน้าต่างโดยตรงอีกด้วย
3.การลดแรงกระทบโดยตรงด้วยส่วนยื่นหรือส่วนเว้า
สถาปนิกไทยได้หาทางแก้ปัญหาผนังรั่วซึม โดยออกแบบให้ตัวบ้านมีส่วนยื่นหรือส่วนเว้าเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นของบ้านแบบโมเดิร์น ที่เวลามีฝนตกพัดมากระทบใส่ผนัง ในส่วนยื่นหรือส่วนเว้านี้ จะเป็นเหมือนป้อมปราการด่านแรกในการลดแรงกระทบโดยตรง และส่วนยื่นหรือส่วนเว้า ยังเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งในการสร้างเป็นพื้นที่ที่สามารถใช้งานเป็นระเบียงสำหรับนั่งเล่นได้เช่นกัน
4.การเลือกใช้รางน้ำฝน
รางน้ำฝนเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี และก่อนที่จะสร้างบ้านควรพูดคุยกับสถาปนิกให้ดีว่า ควรมีรางน้ำฝนลักษณะแบบไหน ถ้าหากกลัวว่ารางน้ำฝนจะทำให้บ้านไม่สวยงาม ก็สามารถซ่อนรางน้ำฝนไว้ในผนังบ้านได้ แต่ต้องคำนึงถึงการรั่วซึมเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากว่าเกิดปัญหาขึ้นมาจะต้องทุบและรื้อถอนจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
5.การสร้างดีไซน์เพื่อหลบทิศทางของฝน
การรู้ทิศทางของฝนก่อนสร้างบ้านนั้น เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าตัวบ้าน โดยปกติแล้วประเทศไทยจะเจอลมมรสุมที่เป็นลมประจำฤดูกาลคือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมมรสุมฤดูร้อน ส่งผลให้มีฝนตกชุก ตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค. ไปถึงเดือนพ.ย. จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญในการสังเกตทิศทางบนที่ดิน เพื่อที่จะได้สร้างและดีไซน์แบบบ้านโมเดิร์นให้เป็นบ้านที่น่าอยู่ ไม่มีฝนรั่วซึม และไม่ร้อน เหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
และนี่ก็คือทั้งหมดของวิธีกันแดด กันฝน ที่บริษัทรับสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นแนะนำ หากคุณนำไปปรับใช้อย่างถูกต้อง เรารับรองว่า บ้านของคุณก็จะสามารถคงความสวยงามไว้ได้อย่างยาวนาน และช่วยลดภาระการซ่อมแซมบ้านให้กับคุณได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์น ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปเสนอกับ บริษัทรับสร้างบ้านที่เลือก เพื่อให้บริษัทรับสร้างบ้านนั้น นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับให้เข้ากับการออกแบบหรือดีไซน์ของบ้านคุณ
หรือหากคุณกำลังมองหา บริษัทรับสร้างบ้านโมเดิร์น ที่พร้อมออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์กับสภาพอากาศ และมีความแข็งแรงมากที่สุด ก็สามารถเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE@ : @royalhouse หรือเข้ามาสอบถามข้อมูลด้วยตัวเองที่ Royal House ใกล้บ้านคุณ เพราะเรามีประสบการณ์ในการสร้างบ้านมายาวนานกว่า 30 ปี จึงทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า รอแยลเฮ้าส์ พร้อมจะมอบบ้านที่สวยงาม และแข็งแรงที่สุดให้กับคุณ