วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน งานตรงปก ไม่เกินงบที่วางไว้

การสร้างบ้านในฝันให้ตรงตามความต้องการขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เจ้าของบ้านควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจาก บริษัทมีส่วนในการดำเนินการสร้างบ้านของคุณทุกขั้นตอน ทั้งยังเป็นก้าวแรกที่การันตีว่าบ้านของคุณจะมีคุณภาพตามมาตรฐานหรือไม่

สำหรับใครที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง Royal House จะพาทุกคนมาดูเทคนิคการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ทุกคนได้อาศัยบ้านในฝันตามที่ต้องการ และไม่มีปัญหาจุกจิกตามมาในภายหลัง จะมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน 

คลายข้อสงสัย ! ทำไมถึงควรใส่ใจกับการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

การสร้างบ้านสักหลัง จะต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะฉะนั้นบริษัทรับสร้างบ้าน จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ของคนที่มีบ้านหลังแรก เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้านมีที่ปรึกษาระดับคุณภาพ คอยให้ความช่วยเหลือลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งยังมีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สร้างบ้านมาแล้วหลายสิบปี และดูแลงานสร้างบ้านอย่างครอบคลุมรอบด้าน

นอกจากนี้ การเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้าน จะช่วยควบคุมงบประมาณไม่ให้บานปลาย ซึ่งจุดเด่นสำคัญที่พลาดไปไม่ได้ คือ การส่งงานตามเวลา และไม่ถูกโกงจากการทิ้งงาน พร้อมกับแจกแจงรายละเอียดวิธีสร้างบ้านอย่างครบถ้วน

เนื่องจาก บริษัทรับสร้างบ้านมีสัญญามาตรฐานในการรับก่อสร้างที่ชัดเจน รวมถึงการรับประกันโครงสร้างบ้านที่ครอบคลุม ทำให้เจ้าของบ้านสามารถมั่นใจได้ว่าการว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน สามารถเนรมิตบ้านในฝันได้ตรงตามความต้องการ ภายในงบประมาณที่วางไว้อย่างแน่นอน  

เทคนิคเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ให้ได้บ้านที่ถูกใจ ตรงตามงบประมาณ

ปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งบริษัทที่มีประสบการณ์หลายสิบปี และบริษัทหน้าใหม่ นับเป็นโอกาสอันดีที่เจ้าของบ้านได้มีโอกาสเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสม แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงมือสร้างบ้านสักหลัง ลองมาดูเทคนิคการเลือกบริษัทสร้างบ้านที่น่ารู้ ซึ่งมีหลายขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้

• เลือกสไตล์บ้านที่ถูกใจ

การเลือกสไตล์บ้านให้ถูกใจผู้อยู่ นับเป็นด่านแรกของการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ล้วนมีความชำนาญในการสร้างบ้านที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นควรสำรวจความต้องการของสมาชิกในครอบครัวให้ดีก่อน จากนั้นจึงพิจารณาบริษัทที่มีสไตล์การสร้างตรงตามความต้องการ เพื่อการันตีว่าบริษัทมีวิธีสร้างบ้าน ที่เข้ากับสไตล์ของบ้านที่ต้องการ และวางใจได้ว่าบ้านที่ถูกสร้างออกมาจะตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยอย่างแน่นอน

• ศึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน

ก่อนตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เจ้าของบ้านควรศึกษาข้อมูลบริษัทต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด โดยเปรียบเทียบรายละเอียดที่น่าสนใจผ่านการอ่านรีวิวจากลูกค้าที่ผ่านมา เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีสร้างบ้าน หรือเยี่ยมชมสถานที่โดยตรง รวมทั้งศึกษาประวัติการทำงานของทีมงานในบริษัทให้เรียบร้อย เพื่อพิจารณาว่าบริษัทมีความน่าเชื่อถือ และมีความสามารถในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ตรวจสอบประวัติการดำเนินงาน

เจ้าของบ้านอย่าลืมตรวจสอบว่าบริษัทมีใบอนุญาต และจดทะเบียนนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงมีแหล่งที่ตั้งสำหรับการติดต่ออย่างชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทที่ว่าจ้างนั้นมีคุณภาพ เข้าใจกระบวนการสร้างบ้านเป็นอย่างดี รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าบ้านที่สร้างออกมาจะตรงตามความต้องการ และไม่ถูกทิ้งงานกลางคัน

• ราคาสมเหตุสมผล ตรงตามงบประมาณ

ในปัจจุบันการสร้างบ้าน ล้วนบานปลายจากค่าวัสดุที่สูงขึ้น เพราะฉะนั้นเจ้าของบ้านควรเลือกเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ บริษัทอย่างละเอียด โดยตั้งงบประมาณที่เหมาะสม และสอบถามกับทางบริษัทว่างบประมาณดังกล่าวเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ควรด่วนตัดสินใจเลือกจ้างบริษัทที่นำเสนอราคาถูกกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ เพราะอาจมีการใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ 

• คุณภาพวัสดุ และเทคโนโลยี

ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา อย่าลืมสอบถามกับบริษัทว่าใช้วัสดุ และเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานในการก่อสร้างบ้านหรือไม่ เนื่องจาก วัสดุที่มีคุณภาพสูง จะช่วยให้โครงสร้างบ้านทนทานต่อการอยู่อาศัยในระยะยาว ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านได้เป็นอย่างดี 

• สอบถามขั้นตอนการสร้างบ้านให้ละเอียด

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้าน ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเซนต์สัญญากับบริษัทรับสร้างบ้าน คือ การศึกษาวิธีการสร้างบ้านให้ละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตรวจสอบหน้างานด้วยตัวเอง

ซึ่งวิธีสร้างบ้านที่ถูกต้องนั้น จะต้องเริ่มจากล่างขึ้นบน กล่าวคือต้องเริ่มจากโครงสร้างเสาเข็ม ฐานราก จากนั้นจะเป็นงานโครงสร้างชั้นหนึ่ง และชั้นสอง แล้วจึงติดตั้งหลังคา ก่อผนัง เตรียมงานระบบ งานตกแต่ง ติดตั้งวัสดุปิดผิว เก็บรายละเอียด และทำความสะอาดก่อนส่งมอบงาน

นอกจากนี้ เจ้าของบ้านควรสอบถามให้ละเอียดด้วยว่า ในช่วงดำเนินการก่อสร้างแต่ละขั้นตอน ผ่านการวางแผนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญแต่ละฝ่ายหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบ้านที่ถูกสร้างออกมา ผ่านกรรมวิธีสร้างบ้านอย่างพิถีพิถัน และใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง

• ต้องมีสัญญาจ้างอย่างชัดเจน

เมื่อเจ้าของบ้านเลือกบริษัทรับสร้างบ้านตรงตามความต้องการได้แล้ว การทำสัญญาก่อสร้างบ้าน ถือเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง โดยสัญญาที่ดีต้องมีการประมาณราคาที่สมเหตุสมผล สามารถเลือกชำระเงินได้ตามความสะดวก และไม่เอาเปรียบเจ้าของบ้าน ที่สำคัญอย่าลืมทบทวนรายละเอียดการทำงานภายในสัญญา รวมถึงสอบถามขั้นตอนการสร้างบ้านอย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักประกันว่าทางบริษัทจะไม่ทิ้งงานระหว่างก่อสร้าง

• ความตรงต่อเวลาตามสัญญา

ข้อสำคัญที่ควรคำนึงในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน คือ ความตรงต่อเวลาตามสัญญาที่กำหนดไว้ บริษัทที่ดีควรทำงานตามกรอบเวลาที่ระบุไว้ตามสัญญา และแบ่งระยะงานเป็นงวด ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้เจ้าของบ้านตรวจสอบได้ว่างานส่วนไหนทำเสร็จเรียบร้อยแล้วบ้าง และไม่กระทบต่อการวางแผนเข้าอยู่อาศัยอีกด้วย

• การรับประกันโครงสร้าง

หลังจากกระบวนการสร้างบ้านเสร็จสิ้น หลายคนอาจจะคิดว่าบริษัทรับสร้างบ้าน คงไม่ต้องดำเนินการอะไรแล้ว แต่ในความเป็นจริง บริษัทยังมีหน้าที่คุ้มครองในกรณีโครงสร้างบ้านเกิดความเสียหาย รวมถึงส่วนต่าง ๆ ภายในบ้านที่เกิดความร้าว หรือทรุดตัวจากโครงสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็น รั้ว กำแพง พื้นบ้าน ผนัง สุขภัณฑ์ที่ใช้งานในห้องน้ำ และงานท่อ เป็นต้น ทั้งนี้ การรับประกันโครงสร้างจะสิ้นสุดลง เมื่อเจ้าของบ้านทำการต่อเติมพื้นที่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงสร้างบ้านโดยตรง

Royal House บริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร สานฝันคนอยากมีบ้าน

Royal House เป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากความครบครันของการให้บริการแบบ One Stop Service เพียบพร้อมด้วยบุคลากรคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้อยู่อาศัยในบ้านที่ผ่านความใส่ใจทุกขั้นตอนอย่างแท้จริง สำหรับบริการระดับคุณภาพของ Royal House มีดังนี้

• บริการสำรวจที่ดินลูกค้า

การสำรวจที่ดินของลูกค้า ถือเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นขั้นตอนแรกหลังเสร็จสิ้นกระบวนการเซ็นสัญญา เพราะที่ดินที่เหมาะสม ย่อมส่งผลต่อโครงสร้างบ้าน และความเหมาะสมในการปลูกบ้าน 

Royal House จึงมีทีมสถาปนิก และวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญในการออกสำรวจที่ดินลูกค้า เพื่อวิเคราะห์ และปรับใช้ในการสร้างบ้านให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด พร้อมกับคอยอธิบายขั้นตอนวิธีสร้างบ้านให้กับลูกค้าอย่างละเอียด

• แบบบ้านที่ครอบคลุมทุกความต้องการ

ทีมงานสถาปนิก และมัณฑนากรมืออาชีพของ Royal House พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกบ้านอย่างเต็มที่ พร้อมมีแบบบ้านให้คุณได้เลือกตั้งแต่แบบมาตรฐานของบริษัท บริการออกแบบตามไอเดียผู้อยู่อาศัย และแบบบ้านจากสถาปนิกภายนอก เพื่อให้บ้านที่ออกมาสวยงาม และตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

• บริการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ

แม้ว่าการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับการก่อสร้างบ้านสักหลัง ซึ่งทาง Royal House เข้าใจปัญหาตรงนี้ดี เราจึงมีทีมงานที่คอยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน ทำให้คุณไม่ต้องคอยปวดหัวกับการเดินเรื่องอีกต่อไป และมั่นใจได้เลยว่าทุกกระบวนการสร้าง ดำเนินอย่างถูกกฎหมายอย่างแน่นอน

• บริการติดต่อสถาบันการเงิน

Royal House เราพร้อมช่วยเหลือลูกค้าทุกท่านได้การเดินเรื่องกับสถาบันการเงิน เนื่องจาก เราเป็นพันธมิตรกับสถาบันทางการเงินหลายแห่งให้เลือกตามความเหมาะสม โดยที่ลูกค้าทุกท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ แต่ชำระเพียงค่าธรรมเนียมของธนาคารตามยอดเงินที่กู้เท่านั้น

• การรับประกัน และบริการหลังปลูกสร้างบ้าน

เราต้องการให้ทุกท่านได้รับความสบายใจในการอยู่อาศัยอย่างสูงสุด ทำให้ Royal House มีระบบรับประกัน และบริการหลังปลูกสร้าง โดยเรามีบริการรับประกันโครงสร้างบ้าน 20 ปี รับประกันหลังคา 5 ปี รับประกันการเก็บรายละเอียดภายในบ้าน 1 ปี และบริการหลังการก่อสร้างต่าง ๆ อีกมากมาย

และทั้งหมดนี้ก็คือ หลักการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านทุกท่านจดไว้เป็นเช็กลิสต์ว่า ควรเลือกบริษัทแบบไหนถึงจะตอบโจทย์มากที่สุด สำหรับใครยังไม่มีบริษัทที่ถูกใจ​ สามารถเลือก Royal House เป็นคำตอบสำหรับการจ้างบริษัทสร้างบ้านให้แก่คุณ เราพร้อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ช่วยสานฝันของคุณให้เป็นจริง หากสนใจสามารถติดต่อเราได้ที่ Line: @royalhouse