จับสังเกต บริษัทรับสร้างบ้านที่ดี ไม่ทิ้งงาน มีลักษณะอย่างไร

แชร์บทความ

รับสร้างบ้าน

การสร้างบ้านโดยบริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้รับเหมาก่อสร้างมีหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุด คือ ผู้รับเหมาทิ้งงาน ทั้งนี้มักเกิดจากการขาดความรู้ และความไม่ระมัดระวังของผู้จ้าง อีกทั้งปัญหาสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐานจนต้องเกิดการรื้อถอน ทำให้งบประมาณการสร้างบานปลาย ซึ่งแน่นอนว่า เราคงไม่เข้าใจวิธีการทำงานของการสร้างบ้านทั้งหมด 

นอกจากนี้ ปัญหาจากการสร้างบ้าน อาจมีปัญหาอย่างอื่นตามมาอีกมากมาย หากเจอผู้รับเหมาที่ไม่ดี อาจทำให้เสียเวลา เสียสุขภาพจิต หรือเกิดเรื่องฟ้องร้องจนต้องขึ้นศาล ดังนั้นในบทความนี้ Royal House ขอแนะนำลิสต์ที่ควรทำก่อนจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาช่างหนีงาน 

ความแตกต่าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง VS บริษัทรับสร้างบ้าน แบบไหนดีกว่ากัน

การมีบ้านเป็นของตัวเอง คงเป็นหนึ่งในฝันสูงสุดของใครหลาย ๆ คน แต่การจะมีบ้านสักหลังจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบ ซึ่งหากต้องการสร้างบ้านเอง แทนการซื้อบ้านเดี่ยว หรือบ้านจัดสรร นั้นมีด้วยกัน 2 วิธี คือ การจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง และการจ้างบริษัทรับสร้าง ซึ่งการสร้างบ้านทั้ง 2 รูปแบบ มีความแตกต่าง ดังนี้

  • ผู้รับเหมาก่อสร้าง

การจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง คือ การที่เจ้าของบ้านหาผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาดูแลกระบวนการสร้างตั้งต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยมีระบบการออกแบบ การประมูล และการก่อสร้าง กล่าวคือเจ้าของบ้านจะต้องมีแบบแปลนบ้านจากสถาปนิกมาก่อนแล้ว จึงนำไปหาผู้รับเหมาเพื่อทำการประเมินราคา และเสนอราคารับเหมาก่อสร้าง หลังจากนั้นเจ้าของบ้านต้องพิจารณาราคา และความน่าเชื่อถือก่อนทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้าง ซึ่งมีข้อดี และข้อเสียดังนี้ 

ข้อดี

  1. งบประมาณถูกกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน เพราะสามารถนำแบบบ้านไปประมูลให้กับผู้รับเหมาเพื่อเสนอราคา
  2. การแก้ไขแปลนบ้านในช่วงออกแบบ สามารถทำได้ง่าย
  3. ติดต่อประสานงานได้ง่าย และสามารถเร่งงานได้
  4. มีการถ่วงดุลและตรวจสอบระหว่างผู้ออกแบบกับผู้รับเหมา

ข้อเสีย 

  1. งบประมาณอาจบานปลาย
  2. ควบคุมระยะเวลาได้ยาก
  3. เจ้าของบ้านต้องดำเนินเรื่องเอกสารการก่อสร้างเอง
  4. ความเสี่ยงจากการที่ผู้รับเหมาหนีงาน
  • บริษัทรับสร้างบ้าน

การจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน คือ รูปแบบบริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร โดยมีระบบ การออกแบบ การก่อสร้าง กล่าวคือบริษัทรับสร้างบ้านจะเป็นผู้ออกแบบ และก่อสร้างเบ็ดเสร็จไปในตัว โดยส่วนมากมีแบบบ้านให้เลือก หรือเป็นบ้านสำเร็จรูปให้เลือกตามขนาด และงบประมาณที่ใช้ ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนแบบ และวัสดุได้บางอย่างพอสมควร มีข้อดีและข้อเสียดังนี้

ข้อดี 

  1. ควบคุมระยะเวลาทำงานได้ดี ลดปัญหาการก่อสร้างล่าช้า
  2. มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนในกรณีการทำงานมีปัญหา
  3. สามารถควบคุมงบประมาณไม่ให้บานปลาย
  4. ได้บ้านที่มีมาตรฐานตรงตามที่วางไว้

ข้อเสีย

  1. งบประมาณแพงกว่าผู้รับเหมา
  2. อาจมีค่าดำเนินการเพิ่มเติมในบางส่วน

จากที่กล่าวข้างต้น เจ้าของบ้านที่ต้องการสร้างบ้านจะเห็นความแตกต่างระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านนั้น ต่างก็มีข้อดี และข้อเสียในแบบของตนเอง ทำให้การเลือกใช้บริการขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน 

แต่หากคุณไม่มีความรอบรู้ และเชี่ยวชาญมากพอในการสร้างบ้าน อีกทั้งมีเวลาที่จำกัด เราขอแนะนำให้ใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้าน เพราะคุณไม่ต้องมานั่งเสียเวลาจัดทำเอกสาร รวมถึงการว่าจ้างทีมสร้างบ้าน เช่น สถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น

เช็กลิสต์ ก่อนหาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ทิ้งงาน

การจ้างบริษัทรับสร้าง เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมที่เราสามารถไว้ใจ และเชื่อถือได้อย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้เจ้าของบ้าน ก็มีสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเซ็นสัญญาว่าจ้าง และควรใช้เวลาศึกษาบริษัทก่อสร้าง ว่าถูกต้องตามที่ต้องการหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาภายหลัง จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกัน

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท

การศึกษาข้อมูลของบริษัท เช่น ประวัติความเป็นมา ผลงานที่ผ่านมา รวมถึงต้องเป็นบริษัทที่การจดทะเบียนประกอบการกับหน่วยงานรัฐ หรือองค์กรอุตสาหกรรม และมีสำนักงาน หรือที่ตั้งบริษัทที่ชัดเจน ทั้งนี้เราสามารถค้นหาผ่านอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากผู้มีประสบการณ์จากเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง อีกทั้งค้นหาความคิดเห็น ข้อร้องเรียนของบริษัททางออนไลน์ เช่น บทวิจารณ์ลูกค้า โดยการพิมพ์ชื่อบริษัทตามด้วยคำว่า รีวิว หลอกลวง หรือคำที่คล้าย ๆ กัน 

  • ขอใบเสนอราคา

หากคุณสามารถเลือกบริษัทได้สัก 3-4 ราย โดยการขอใบเสนอราคา เพื่อนำมาพิจารณาถึงราคากับคุณภาพ และบริการที่จะได้รับ อีกทั้งต้องมีแบบบ้านให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ต่ำกว่า 50 แบบ เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถตัดสินใจให้ตรงความต้องการมากที่สุด 

  • ถามคำถามเพิ่มเติม เพื่อเสริมความเชื่อมั่น

การรับคำปรึกษาก่อนเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ช่วยให้คุณสามารถขอคำชี้แจงเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น ระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยสื่อถึงประสบการณ์ของบริษัทว่ามีคุณภาพ และการบริการเป็นอย่างไร เพื่อให้เรารู้ถึงความพร้อมของบริษัท ที่พร้อมจะให้การสนับสนุนตลอดกระบวนการสร้าง

  • ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร

เมื่อเราสามารถเลือกบริษัทรับสร้างบ้านได้แล้ว สิ่งถัดไปที่ควรทำ คือ การทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งไม่ว่าจะมีความสนิทกันเท่าไหร่ ก็ห้ามมีการตกลงสัญญาด้วยปากเปล่า โดยการทำสัญญามีสิ่งที่ควรระบุ เช่น ขอบเขตการทำงานที่ชัดเจน ระยะเวลา เอกสารค่าใช้จ่ายวัสดุ (BOQ) และการแบ่งชำระเป็นงวด เป็นต้น

ทั้งนี้ควรตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาจากบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเซ็นชื่อในสัญญา ถ้าหากมีข้อสงสัยควรมีการสอบถาม และมีการพูดคุยให้เข้าใจทั้งสองฝ่าย

  • ตรวจสอบการทำงาน

เจ้าของบ้านต้องเข้าไปตรวจสอบการสร้างบ้านด้วยตนเองอยู่เสมอ โดยไม่ต้องแจ้งบริษัทรับสร้างบ้านล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้คุณได้เข้าใจการทำงาน ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่

  • บริการหลังการขาย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการก่อสร้างมีโอกาสเกิดปัญหาได้เสมอ หรือปัญหาหลังจากสร้างบ้านเสร็จ ซึ่งหากบริษัทรับสร้างบ้านมีบริการหลังการขาย อาจสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของบ้าน และช่วยอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกันโครงสร้าง 20 ปี ประกันหลังคา 5 ปี หรือประกันอื่น ๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างตรวจรับบ้าน ควรหาผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจงาน เช่นสถาปนิก วิศวกร หรือบริษัทรับตรวจบ้าน เพราะหากมีอะไรผิดพลาดจากที่เคยตกลงในสัญญาต้องได้รับการแก้ไข และเมื่อตรวจสอบเสร็จจึงชำระเงินงวดสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม การสร้างบ้านใช้เวลานาน และต้องใช้ความรอบครอบ เพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมา ดังนั้น คุณควรทำการศึกษาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเหมาะสม และมีคุณภาพที่ดี ทั้งนี้อย่าพลาดลืมทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร และตรวจสอบรายละเอียด ก่อนลงลายเซ็นในสัญญา

ทั้งหมดนี้ เป็นเช็กลิสต์ สำหรับเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาบริษัททิ้งงาน หากคุณต้องการสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ก็ขอแนะนำบริการจากทางบริษัทรับสร้างบ้าน Royal House  ที่มีประสบการณ์มากกว่า 38 ปี ให้บริการปลูกบ้านแบบครบวงจร

ตั้งแต่สำรวจที่ดิน ออกแบบ ก่อสร้าง และติดต่อหน่วยราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณ หากสนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อมาได้ Line: @royalhouse

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า