หากไม่ได้มองจากมุมของบริษัทรับสร้างบ้าน การมีบ้านอยู่ในพื้นที่เมืองหลวงหรือต่างจังหวัด เป็นแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าความเจริญในประเทศไทยนั้น ค่อนข้างจะกระจุกตัวอยู่แต่ในพื้นที่เมืองหลวง โดยเฉพาะแถบกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทำให้หลายคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง อาจจะคิดหนักว่าควรจะสร้างบ้านในเมือง หรือต่างจังหวัดดี ซึ่งในแต่ละพื้นที่นั้นต้องแลกมากับเงื่อนไขที่จะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างไร
ดังนั้น ในบทความวันนี้ Royal House ขออาสาพาทุกคนไปสำรวจมุมมองระหว่างการสร้างบ้านในพื้นที่เมืองหลวงกับการสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด ว่าแต่ละเขตนั้นมีข้อดี หรือข้อด้อยต่างกันอย่างไร และแบบไหนคือบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรามากที่สุด หากต้องเลือกสร้างบ้านพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งจะต้องแลกมากับเงื่อนไขอะไรบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วก็ไปติดตามอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย
ในเมือง หรือต่างจังหวัด บ้านแบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์เราที่สุด
ก่อนอื่นเราลองมาสำรวจกันดูสักหน่อยว่าการรับสร้างบ้านในแต่ละพื้นที่ มีปัจจัยใดบ้างที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อเป็นการทำให้เห็นภาพรวมของการมีบ้านในแต่ละพื้นที่ว่า จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์เราหรือไม่ โดยยึดจากเรื่องงบประมาณ พื้นที่ บรรยากาศ ค่าครองชีพ และวิถีชีวิตเป็นหลัก ดังนี้
บ้านในเมือง
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงบ้านในเมือง ย่อมต้องมองเห็นภาพความเจริญมาก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะในเรื่องของการคมนาคมผ่านระบบขนส่งมวลชนที่เข้าถึงแทบจะทุกอาณาบริเวณของพื้นที่ในเมืองหลวง แต่ก็ยังมีปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่ต้องคำนึงถึงอีกตามนี้
งบประมาณ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าความเจริญค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลวง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร และแถบปริมณฑลที่ราคาที่ดินมีมูลค่าสูงมาก ยิ่งเป็นจุดที่ใกล้กับระบบขนส่งมวลชน อย่าง รถไฟฟ้า BTS และ MRT ราคาที่ดินก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แต่สำหรับใครที่มีที่ดินอยู่แล้ว ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ไม่ต้องเสียเงินในส่วนของการหาที่ดินสร้างบ้าน ถือว่าประหยัดงบประมาณด้านนี้ไปได้สูง
พื้นที่
สำหรับการสร้างบ้านในพื้นที่เขตเมืองหลวง อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจำกัด อย่างที่เห็นว่าโครงการบ้านจัดสรรในเขตเมืองส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นบ้านประเภททาวน์โฮม หรือทาวน์เฮาส์ ซึ่งจะเน้นไปที่ความสูงตั้งแต่ 2-4 ชั้น มากกว่าบริเวณพื้นที่ใช้สอยรอบบ้าน จึงไม่ค่อยเหมาะกับครอบครัวใหญ่ หรือครอบครัวที่มีลูกหลานวัยกำลังโตที่ต้องการพื้นที่ในการวิ่งเล่น
บรรยากาศ
สำหรับการรับสร้างบ้านในเขตเมืองหลวง บรรยากาศ จะแตกต่างกับบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างชัดเจน เพราะความเจริญที่กระจุกตัว ทำให้ประชากรในเขตเมืองหลวงมีความแออัด ประกอบกับพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่อย่างจำกัด ก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยบ้านในเขตเมืองนั้นใกล้ชิดกับแสง สี และเสียงมากกว่า
ค่าครองชีพ
แม้จะดูเหมือนว่าค่าครองชีพในเมืองหลวงมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าต่างจังหวัด แต่ในความเป็นจริง ณ ปัจจุบันค่าครองชีพของเขตต่างจังหวัดหรือแถบชานเมืองนั้นก็ไม่ได้ต่ำไปกว่าในตัวเมืองเท่าไรนัก อาจจะต้องจำแนกแบบเฉพาะเจาะจงพื้นที่ และพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วยถึงจะเห็นภาพในส่วนนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น
วิถีชีวิต
ในพาร์ตนี้อาจมองเห็นได้ชัดเจนมากกว่าปัจจัยข้ออื่น ๆ เพราะความเจริญส่วนใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งระบบขนส่งสาธารณะ ศูนย์การค้า รวมไปถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมืองหลวง ทำให้วิถีชีวิตของคนเมืองเร่งรีบ และไม่เคยหลับใหล ใครที่ชอบความเงียบสงบอาจไม่เหมาะกับการมีบ้านในพื้นที่แถบนี้มากนัก
บ้านต่างจังหวัด
สำหรับการรับสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด แม้จะเป็นพื้นที่ในเขตหัวเมืองใหญ่ก็ตาม ย่อมมองเห็นภาพความเงียบสงบมาก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเรื่องของการคมนาคม ที่อาจไม่สะดวกสบายเท่าในตัวเมืองหลวง ซึ่งมีทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT รวมไปถึงรถเมล์สายต่าง ๆ คอยให้บริการตลอดทั้งวัน แต่ใช่ว่าพื้นที่ต่างจังหวัดจะไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย ลองมาพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้ดูก่อนว่าเหมาะกับตัวเราหรือไม่
งบประมาณ
แม้จะไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่การมองหาที่ดินต่างจังหวัดย่อมมีราคาถูกกว่าในเมืองหลวง โดยเฉพาะที่ดินที่มีถนนทางหลวงตัดผ่าน หากเทียบสเกลแล้วก็ยังคงมีราคาถูกกว่าในเขตเมืองหลวง และสำหรับใครที่มีที่ดินเปล่าอยู่แล้วก็เพียงเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านให้กับบริษัทรับสร้างบ้านเท่านั้น ถือว่าเป็นการประหยัดงบประมาณกว่ามาก
พื้นที่
โดยส่วนใหญ่ที่ดินในต่างจังหวัดมีขนาดตั้งแต่ 1 ไร่ (400 ตารางวา) ขึ้นไป เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือครอบครัวที่มีลูกหลานที่ต้องการที่วิ่งเล่น
บรรยากาศ
แน่นอนว่าการสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัดย่อมได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่า แม้จะเป็นพื้นที่ในหัวเมืองก็ย่อมได้รับอากาศสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากมลพิษ อีกทั้งประชากรในชุมชนก็ไม่เบียดเสียดหรือแออัดเท่ากับบ้านที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง และห่างไกลจากแสง สี และเสียง
ค่าครองชีพ
สำหรับค่าครองชีพในต่างจังหวัด บางพื้นที่ก็ไม่ได้มีเปอร์เซ็นต์ต่ำไปกว่าในเขตเมืองหลวง แต่บางพื้นที่ก็มีค่าครองชีพต่ำ ทำให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันประหยัดได้มากกว่า แต่ก็ไม่แน่นอนเสมอไป เพราะในความเป็นจริงข้าวของบางอย่างในต่างจังหวัด ก็ราคาเทียบเท่า หรือแพงกว่าเมืองหลวงอยู่มาก
วิถีชีวิต
การอาศัยอยู่ในต่างจังหวัดจะช่วยทำให้มีวิถีชีวิตที่ Slow Life มากกว่าในเมืองหลวง ไม่มีความเร่งรีบ หรือความวุ่นวายจากการจราจรที่แออัด มีความสงบเงียบมากกว่า เนื่องจากพื้นที่สร้างบ้านในต่างจังหวัดมักอยู่ห่างไกลจากศูนย์การค้า สถานบันเทิง หรือที่ที่คนพลุกพล่าน
ทำเลนี้แหละใช่! อยากมีบ้านทั้งในเมือง และต่างจังหวัด ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ได้เห็นกันไปแล้วว่าการมีบ้านตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองหลวง หรือต่างจังหวัดมีข้อดีต่างกันอย่างไร เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราหรือไม่ หากเลือกได้แล้วว่าต้องการอยู่อาศัยในโลเคชันนั้น ๆ ต่อไปลองมาสำรวจปัจจัยขั้นพื้นฐาน เพื่อให้การสร้างบ้านครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และสามารถเข้าอยู่อาศัยได้จริง ซึ่งมีดังนี้
คำนวณงบประมาณที่ต้องใช้
หากเลือกที่จะสร้างบ้านในพื้นที่เขตเมืองหลวง ก็อาจจะต้องเตรียมงบประมาณสูงกว่าการสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด เว้นแต่ว่าจะมีที่ดินผืนเปล่าเตรียมไว้อยู่แล้ว ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณเรื่องการหาพื้นที่สำหรับปลูกสร้างบ้านได้ เพราะราคาของวัสดุในการก่อสร้าง กับราคาค่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านอาจจะไม่ต่างกันมาก
เลือกทำเลที่การคมนาคมสะดวก
หลังคำนวณงบประมาณที่จะเตรียมไว้สำหรับสร้างบ้านแล้ว ขั้นต่อไป คือการเลือกหาทำเลในการสร้างที่อยู่อาศัย โดยต้องคำนึงถึงเรื่องการคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากเป็นในเมืองหลวงอาจเลือกทำเลที่การขนส่งมวลชนเข้าถึง แต่ถ้าหากเป็นต่างจังหวัด ก็ควรเลือกพื้นที่ที่มีถนนใหญ่ตัดผ่าน เพื่อให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
สำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ
พื้นที่ในตัวเมืองหลวงอาจรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายโดยเฉพาะศูนย์การค้า แต่สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดอาจมีศูนย์การค้าตั้งอยู่ไม่มาก ดังนั้น อย่าลืมสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบพื้นที่ แม้จะมีถนนเข้าถึงแต่ถ้าห่างไกลเกิน ต้องใช้เวลานานกว่าจะเดินทางไปถึง ก็อาจจะพิจารณาเลือกโลเคชันในการสร้างบ้านจุดอื่น
เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ
หากวางแผนทุกอย่างเรียบร้อย ขั้นตอนสุดท้ายที่จะได้มีบ้านอย่างที่ฝัน ก็คือการมองหาบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ มาดำเนินการก่อสร้างบ้าน โดยดูจากผลงานของบริษัทที่ผ่านมา มีบริการครบวงจร ทั้งบริการก่อน และหลังการขาย รวมถึงการรับประกันต่าง ๆ ในการก่อสร้างบ้าน เพื่อให้ได้บ้านอย่างที่ต้องการ
การจะมีบ้านสักหลังในชีวิตนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างมหาศาล ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มตัดสินใจปลูกสร้างบ้านด้วยตัวเอง Royal House แนะนำให้คิดให้ถี่ถ้วนก่อน วางแผนจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ โดยเฉพาะการเลือกบริษัทรับสร้างมารับงานนั้น หากพลาดไปอาจทำให้เสียเงินจำนวนมาก โดยไม่ได้บ้านมาครอบครอง สำหรับใครที่สนใจอยากมีบ้านเป็นของตัวเองก็สามารถปรึกษาเราได้ที่ Line: @royalhouse