หากพูดถึงสไตล์การสร้างบ้าน ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ร่มเย็น เรียบง่าย ทันสมัย ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวสูง และเหมาะกับการอยู่อาศัยร่วมกับสมาชิกในครอบครัว แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงบ้านสไตล์นอร์ดิก หรือบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน เป็นอันดับแรก
เนื่องจาก บ้านสไตล์นอร์ดิกมีจุดเด่นสำคัญ คือ รูปทรงหลังคาบ้านเป็นสามเหลี่ยมสูง การตกแต่งภายในที่เน้นใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก และรายล้อมไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางกลิ่นอายแห่งเมืองหนาว ในประเทศแถบสแกนดิเนเวียน
สำหรับเจ้าของบ้านคนไหน ที่มีความตั้งใจอยากสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก กับบริษัทรับสร้างบ้าน ในบทความนี้ Royal House จะพาทุกท่านมาดูขั้นตอนการสร้างบ้านนอร์ดิก ให้ออกมาตรงปก และเข้าอยู่ได้จริง พร้อมเผยจุดที่ควรระวัง ก่อนลงมือสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูพร้อมกันได้เลย
เจาะลึก วิธีสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก ก่อนลงมือจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน
แม้ว่าการสร้างบ้าน คือ หน้าที่ของทีมงานในบริษัทรับสร้างบ้าน แต่เจ้าของบ้านเองก็ควรทำความเข้าใจ เกี่ยวกับลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ทำความเข้าใจ และควบคุมงานในขั้นเบื้องต้น รวมถึงจับสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น หากช่างก่อสร้าง หรือวิศวกรละเลยขั้นตอนการสร้างบ้านโดยไม่รู้ตัว สำหรับขั้นตอนการสร้างบ้าน เริ่มจากโครงสร้างเสาเข็ม ไปจนถึงการส่งมอบบ้าน โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
เตรียมพื้นที่ให้พร้อม
หลังจากที่เลือกแบบบ้าน และทำสัญญากับบริษัทรับสร้างบ้านเรียบร้อยแล้ว ทางทีมวิศวกรจะเริ่มทำการสำรวจพื้นที่ กำหนดจุดวาง และขนย้ายเครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงเริ่มทำการเตรียมพื้นที่ ให้เหมาะกับการก่อสร้างบ้าน ทั้งนี้ หากมีบ้านหลังเดิมอยู่ในพื้นที่ ต้องทำการรื้อถอนออกให้เรียบร้อย และปรับปรุงหน้าดินใหม่อีกครั้ง
วางผังอาคารให้เหมาะสม
เมื่อเตรียมพื้นที่เสร็จ ทางทีมก่อสร้าง และวิศวกรจะเริ่มวางผังแนวอาคาร ซึ่งเป็นการกำหนดตำแหน่งของเสาเข็ม โดยอ้างอิงจากแบบ เพื่อให้เจ้าของบ้าน ผู้ออกแบบ วิศวกร และทีมก่อสร้าง มีความเข้าใจที่ตรงกัน
หากพบเจออุปสรรคที่หน้างาน ทางบริษัทรับสร้างบ้านต้องนำเสนอแนวทางแก้ไขให้ผู้ออกแบบเซ็นชื่อรับรอง และแจ้งความคืบหน้าให้กับเจ้าของบ้าน เพื่อดำเนินการสร้างต่อไป
วางเสาเข็มอย่างเป็นระบบ
เสาเข็มที่เหมาะกับการสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก ต้องผ่านการทดสอบความแข็งแรง (Load Test) รวมถึงรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐาน โดยทางทีมงานของบริษัทรับสร้างบ้าน ต้องทำการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า ควรเลือกลงเสาเข็มตอก หรือเสาเข็มเจาะ โดยเสาเข็มทั้ง 2 แบบนั้น มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้
- เสาเข็มตอก: เป็นเสาเข็มที่ใช้ปั้นจั่นตอกเสาเข็มลงในดิน จนได้ความลึกที่ต้องการ ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นการก่อสร้างที่ไม่ซับซ้อน และค่าใช้จ่ายไม่สูงจนเกินไป
- เสาเข็มเจาะ: คือ เสาเข็มคอนกรีตเจาะหล่อในที่ โดยใช้วิธีการเจาะดิน พร้อมกับติดตั้งปลอกเหล็ก (Steel Casing) ตลอดความยาวเสาเข็ม เพื่อป้องกันการพลังทลายของผนังชั้นดิน เหมาะกับอาคารที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่
วางฐานโครงสร้างชั้นล่าง-ชั้นบน
หลังจากที่วางเสาเข็มแล้ว ทีมก่อสร้างจะเริ่มวางฐานโครงสร้างชั้นล่าง ประกอบด้วย ฐานราก เสาตอม่อ คานคอดิน และพื้นชั้นล่าง ส่วนโครงสร้างชั้นบน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเสา คานหลังคา รวมถึงการหล่อชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น บัว กันสาด และขอบปูน เป็นต้น ซึ่งโครงสร้างแต่ละส่วน จะต้องใช้ระยะเวลาบ่มคอนกรีต
เมื่อวางฐานโครงสร้างชั้นล่าง และชั้นบนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางวิศวกรจะเริ่มวางส่วนของระบบประปา และสุขาภิบาล ทั้งถังเก็บน้ำใต้ดิน ท่อน้ำทิ้ง และถังบำบัด สำหรับเตรียมการเดินท่อเข้ามาภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านควรถ่ายรูป และจดบันทึกตำแหน่งของโครงสร้างให้เรียบร้อย เพื่อเก็บหลักฐานยืนยัน ในกรณีที่เกิดความเสียหายในอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @royalhouse
ติดตั้งวัสดุมุงหลังคา
เมื่องานโครงสร้างหลักเสร็จสิ้น ก็ถึงขั้นตอนของการติดตั้งวัสดุมุงหลังคา โดยควรสร้างให้ถูกต้องตามขั้นตอน และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันปัญหารั่วซึมภายหลัง รวมถึงเสริมให้บรรยากาศภายในบ้านร่มเย็น และป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม หากสร้างบ้านนอร์ดิก 2 ชั้น ทางทีมรับสร้างบ้านต้องหล่อโครงสร้างบันไดคอนกรีต หรือติดตั้งบันไดเหล็กให้เรียบร้อย พร้อมกับเก็บรายละเอียดโครงสร้างส่วนต่าง ๆ รอบบ้าน เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ ว่างานส่วนไหนบ้างที่ควรแก้ไขให้สมบูรณ์
ตกแต่งภายในให้เรียบร้อย
ขั้นตอนสุดท้ายที่เจ้าของบ้านรอคอย คงเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากการตกแต่งภายใน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความประณีตอย่างมาก เพราะหากขาดความใส่ใจในการตกแต่ง อาจทำให้ภาพรวมของบ้านดูไม่สวย และไร้กลิ่นอายของความเป็นนอร์ดิกโดยสิ้นเชิง
ข้อควรระวัง เมื่อคิดสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก ที่เจ้าของบ้านต้องรู้
แม้ว่าบ้านสไตล์นอร์ดิกจะมีความมินิมอล และ Mood & Tone ดูอบอุ่น สบายตา ถูกใจเจ้าของบ้านมากขนาดไหน แต่การสร้างบ้านนอร์ดิกให้ออกมาสวยงาม และเข้าอยู่ได้จริง เจ้าของบ้านควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกแบบบ้านให้เหมาะกับสภาพอากาศไทย รวมถึงตรวจสอบกระบวนการสร้าง กับทีมก่อสร้าง และวิศวกรให้ละเอียดทุกขั้นตอน
เนื่องจาก เอกลักษณ์เฉพาะตัวของบ้านสไตล์นอร์ดิก คือ หลังคาทรงจั่ว ทั้งยังเป็นบ้านที่ไม่มีชายคา จึงเหมาะกับการสร้างในประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวจัดตลอดทั้งปี มากกว่าประเทศไทยที่มีอากาศร้อนจัด และพายุฝนถล่ม โดยจุดที่ควรระวัง หากต้องการสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก ได้แก่
คำนึงถึงปัญหาความร้อน
เนื่องด้วย บ้านสไตล์นอร์ดิกถูกออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง จึงนิยมติดตั้งหลังคาทรงจั่ว แบบไร้ชายคา และตกแต่งด้วยกระจกรอบตัวบ้าน ด้วยเหตุนี้ อุณหภูมิภายในบ้านจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงต้องเผชิญกับปัญหาผนังบ้าน ซีดจางเร็วกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความร้อนสะสมในตัวบ้าน สามารถแก้ไขได้ในขั้นตอนการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งกระจกบานใหญ่ไว้ในทางทิศเหนือ การเขียนแปลนห้อง ให้เข้ากับทิศทางแสงแดด รวมถึงการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ เป็นต้น
หลังคาต้องกันฝนได้ดี
หนึ่งในจุดที่เจ้าของบ้านต้องทำความเข้าใจ คือ หลังคาบ้านสไตล์นอร์ดิก ถูกฝนสาดเข้ามาในตัวบ้านได้ง่าย เนื่องจาก ไม่มีชายคาเหมือนกับบ้านสไตล์อื่น ๆ ดังนั้น ควรออกแบบหลังคาให้รองรับความชื้นบนผนัง และป้องกันละอองฝนสาดเข้าบ้าน เพื่อให้หลังคาทำหน้าที่เป็นกันสาดไปในตัว
ระมัดระวังปัญหารั่วซึม
ปัญหาหลังคา และผนังรั่วซึม ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เจ้าของบ้านนอร์ดิกต้องเผชิญ เนื่องจาก ขาดการมุงหลังคาที่ดี รวมถึงการออกแบบบ้านที่ไม่เข้ากับสภาพอากาศ และเลือกใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดรอยรั่วได้ง่าย ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ ด้วยการออกแบบความลาดเอียงของหลังคาให้เหมาะสม เพื่อลดปัญหาการรั่วซึม และปัญหาน้ำไหลย้อน ทั้งยังช่วยกันฝนไม่ให้เข้าอาคารได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ขั้นตอนการสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิกที่ Royal House ได้รวบรวมมาให้ เชื่อว่าเจ้าของบ้านหลายคน คงได้เรียนรู้กันแล้วว่าวิธีการสร้างบ้านแต่ละหลัง ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง เพื่อให้เจ้าของบ้านได้บ้านที่สวยงาม เหมือนกับบ้านนอร์ดิกฉบับต้นตำรับ
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาใส่ใจในการดูรายละเอียดบ้าน ก็สามารถเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านจาก Royal House เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญในการสร้างบ้านมามากกว่า 6,000 หลัง พร้อมด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย เพื่อสร้างบ้านที่แข็งแรง และตรงตามมาตรฐานเหมือนกันทุกหลัง หากสนใจ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse