บ้าน คือที่พักอาศัยในระยะยาว และเป็นที่ที่คุณใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน เมื่อเวลาผ่านไป บ้านย่อมมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งการปล่อยให้บ้านทรุดโทรม อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ดังนั้น การดูแลรักษา และซ่อมแซมบ้านจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบ้าน หรือสร้างใหม่ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการปรับปรุงบ้านให้แข็งแรง และทันสมัยตามเทรนด์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การทำบ้านใหม่นั้นมีสองทางเลือกหลัก คือการสร้างบ้านใหม่ หรือการรีโนเวทบ้าน ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน ผู้ที่สนใจควรพิจารณาให้รอบคอบ
โดยวันนี้ Royal House บริษัทรับสร้างบ้านจะพาคุณมาดูความแตกต่างระหว่างการสร้างบ้านใหม่ และการรีโนเวทบ้าน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าแบบไหนเหมาะสม และคุ้มค่าที่สุดในการปรับปรุงบ้านของคุณ ถ้าพร้อมกันแล้ว มาดูกันเลย !
เลือกให้ดี ! ทำบ้านใหม่ หรือ รีโนเวทบ้าน ให้ตรงตามความจำเป็น
การทำบ้านใหม่ คือ การทุบบ้านทิ้งทั้งหลัง และสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้โครงสร้างบ้าน มีความแข็งแรงมากขึ้นด้วยวัสดุใหม่เอี่ยม และทำให้บ้านมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
ในขณะที่การรีโนเวทบ้าน จะหมายถึงการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงบางส่วนของบ้าน โดยยังคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ แต่มีการก่อสร้างเพิ่มเติม หรือปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เฉพาะบางพื้นที่ รวมถึงการทดแทนโครงสร้างบางส่วนที่เสื่อมสภาพไปแล้ว
เมื่อมาถึงขั้นตอนการตัดสินใจ ว่าความต้องการของคุณคืออะไร ระหว่างการทำบ้านใหม่ หรือจะรีโนเวทบ้าน ซึ่งคุณจะต้องพิจารณาให้ดี เพราะทั้งการทำบ้านใหม่ และการรีโนเวทต่างมีค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุน การตั้งคำถามกับตัวเองให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ จะช่วยให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ในการปรับปรุงบ้านให้ตรงกับความจำเป็น และงบประมาณของคุณ ตัวอย่างเช่น
Q: อยากขยายครอบครัว – ทำบ้านใหม่ หรือรีโนเวท ?
เมื่อครอบครัวมีสมาชิกในบ้านเพิ่มมากขึ้น พื้นที่ใช้สอยก็ต้องขยายตาม หากบ้านเดิมยังมีพื้นที่เหลือเพียงพอ การต่อเติมบางส่วน เช่น การกั้นห้องเพิ่ม ก็ถือเป็นวิธีการรีโนเวท ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลักของบ้าน
แต่ถ้าพื้นที่ในบ้านไม่เพียงพอสำหรับการขยาย หรือรีโนเวท การทำบ้านใหม่อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะการมีสมาชิกเพิ่มขึ้น นอกจากจะต้องมีห้องนอนที่มากขึ้นแล้ว ยังต้องมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่กว้างขวางขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เพื่อป้องกันความแออัด และในกรณีที่มีผู้สูงอายุร่วมอาศัย การปรับเปลี่ยนโครงสร้างบ้านใหม่ อาจเป็นสิ่งที่ตอยโจทย์มากกว่า
Q: อยากทำธุรกิจที่บ้าน – ทำบ้านใหม่ หรือ รีโนเวทบ้าน ?
หากคุณคิดจะทำธุรกิจที่บ้าน เช่น เปิดคาเฟ่ ร้านขายยา หรือร้านอาหาร การรีโนเวทอาจเป็นตัวเลือกที่ดี โดยสามารถปรับปรุงเฉพาะพื้นที่ด้านหน้าให้เหมาะกับธุรกิจได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นบ้าน 2 ชั้น หรือทาวน์โฮมที่มีหลายชั้น คุณสามารถรีโนเวทแค่ชั้นล่างให้เป็นพื้นที่ธุรกิจ ส่วนชั้นบนยังคงใช้เป็นที่อยู่อาศัยแบบเดิมได้ตามปกติ
ในกรณีที่เป็นธุรกิจโฮสเทล คุณอาจจะต้องพิจารณาการทำบ้านใหม่ เนื่องจาก ต้องปรับให้สไตล์ของบ้านทั้งหมดสอดคล้องกัน เพราะการรีโนเวทอาจยุ่งยากในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การออกแบบบ้านให้เหมาะกับธุรกิจ ยังมีรายละเอียดมากมายที่ต้องพิจารณา การจ้างบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบบ้านเพื่อธุรกิจจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
Q: บ้านดูเก่า และดูโทรม – ทำบ้านใหม่ หรือ รีโนเวทบ้าน ?
หากบ้านเริ่มทรุดโทรม โครงสร้างเดิมอ่อนแอ และเห็นความเสียหายชัดเจน การทำบ้านใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะการรีโนเวทแค่บางส่วน อาจไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างที่เสื่อมโทรมได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หากบ้านยังมีอายุการใช้งานน้อย และพบว่าแค่บางพื้นที่เริ่มทรุดโทรม การรีโนเวท และซ่อมแซมเฉพาะจุด อาจเป็นทางเลือกที่ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายมากกว่า เนื่องจากส่วนอื่น ๆ ของบ้านยังคงสภาพดีอยู่
Q: อยากให้บ้านสวยขึ้น – ทำบ้านใหม่ หรือ รีโนเวทบ้าน ?
สำหรับใครที่อยากปรับเพียงรูปลักษณ์ของบ้าน ก็ควรเลือกรีโนเวทบ้านแทนการทำบ้านใหม่ เพราะเป็นการต่อเติมแค่บางส่วน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโครงสร้างทั้งหมด และไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบ้านส่วนเก่า ทำให้ทั้งสะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย
ห้ามลืม ! รีเช็ก 3 สิ่งก่อนตัดสินใจก่อนทำบ้านใหม่ และรีโนเวทบ้าน
ก่อนตัดสินใจว่าจะทำบ้านใหม่ หรือรีโนเวทบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านมักแนะนำให้มีการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจ ว่าทางเลือกไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการ และงบประมาณของคุณ ดังนี้
1. เช็กสภาพบ้าน
สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบ คือสภาพของบ้านเดิม เพราะการเปลี่ยนแปลงบ้าน เป็นการลงทุนใหญ่ ที่ไม่สามารถกลับคืนได้ หรือถ้าต้องปรับเปลี่ยนก็จะต้องใช้งบประมาณที่สูง ดังนั้น สำหรับบ้านที่มีอายุมากกว่า 20 ปี การทำบ้านใหม่อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะวัสดุต่าง ๆ อาจใกล้หมดอายุการใช้งานแล้วนั่นเอง
ส่วนบ้านที่มีอายุการใช้งานน้อย สภาพวัสดุอาจยังใช้งานได้ดี แต่ก็ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพราะปัจจัยภายนอก เช่น น้ำ ปลวก หรือแดดจัด อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งหากพบปัญหาเหล่านี้ การซ่อมแซม หรือรีโนเวทบางส่วนอาจเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับปรุงสภาพบ้าน
2. เช็กพื้นที่โดยรอบ
การตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจทำบ้านใหม่ หรือรีโนเวทบ้าน เนื่องจาก การทำบ้านใหม่ต้องใช้พื้นที่ก่อสร้างมากกว่าการรีโนเวท เพื่อรองรับโครงสร้าง และวัสดุใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากในการขนย้าย และวางโครงสร้างหากพื้นที่ไม่เพียงพอ
ดังนั้น การรีโนเวทจึงเหมาะกับการปรับปรุงบ้านในพื้นที่เดิม เพราะใช้โครงสร้างเดิม และไม่ต้องขยายออกไปมาก เป็นการเปลี่ยนแปลงภายในบ้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากบ้านทรุดโทรมมาก ก็ควรมีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุด
3. เช็กงบประมาณ
ระหว่างการทำบ้านใหม่ และการรีโนเวท ต้องใช้งบที่แตกต่างกันมากพอสมควร เพราะการทำบ้านใหม่ต้องใช้งบในการจัดซื้อวัสดุใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การทุบบ้านเก่า ไปจนถึงการขึ้นโครงสร้างบ้านใหม่ รวมไปถึงการจ้างช่าง ส่วนการรีโนเวทจะประหยัดงบประมาณได้มากกว่า ตรงที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อวัสดุใหม่ และใช้โครงสร้างเก่าได้ เพียงต่อเติมใหม่ด้วยการทาสี หรือซื้อของตกแต่งเพิ่มเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการรีโนเวทใหม่ทั้งหลัง ด้วยวัสดุที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือรีโนเวทเป็นสไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยม อาจจะมีงบประมาณมากพอ ๆ กับการทำบ้านใหม่ ซึ่งหากการรีโนเวทต้องเสียงบประมาณเทียบเท่ากับการทุบบ้านใหม่ การตัดสินใจทำบ้านใหม่ไปเลย ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะจะได้วัสดุใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานที่นานขึ้น
ทั้งนี้ การเปรียบเทียบการทำบ้านใหม่ และการรีโนเวทบ้านเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่ต้องพิจารณา บทความนี้เสนอแนวทางเบื้องต้นเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่า และตรงตามความต้องการ เมื่อคุณตัดสินใจแล้ว ก็สามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้อย่างมั่นใจ
หากคุณต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หรือกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน Royal House คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา เรามีบริการสร้างบ้านหลากหลายรูปแบบ ที่พร้อมให้คำแนะนำที่ตรงใจ หากสนใจติดต่อสอบถามได้ที่ Line: @royalhouse
