การเลือกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะทุกองค์ประกอบมีผลโดยตรงต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และการตอบสนองต่อความต้องการของสมาชิกภายในครอบครัว
ในบทความนี้ Royal House จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 5 ข้อควรรู้ ก่อนเลือกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย เพื่อให้คุณได้บ้านที่เหมาะสม และลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของคุณ จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลย
เรื่องน่ารู้ก่อนสร้างบ้าน ! ลักษณะแบบบ้านที่ดีเป็นอย่างไร
การสร้างบ้าน แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต และการเลือกแบบบ้านที่ดีนั้น จะช่วยให้บ้านของคุณเป็นสถานที่ที่ตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว ทั้งในด้านการใช้งาน ความสวยงาม ความแข็งแรง และความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ ลักษณะของบ้านที่ดี มีดังต่อไปนี้
1. ฟังก์ชันการใช้งาน
อันดับแรกแบบบ้านที่ดี ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ โดยมีการออกแบบมาให้เหมาะสมกับขนาดครอบครัว กิจกรรมที่ทำภายในบ้าน และความต้องการในการใช้สอยพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ห้องนอน ห้องครัว และห้องรับแขก เป็นต้น
นอกจากนี้ การจัดวางพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านควรเชื่อมต่อกันอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้การใช้งานสะดวกสบาย รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัว หรือไลฟ์สไตล์ในอนาคตได้
2. ความสวยงาม และสไตล์
ต่อมาแบบบ้านที่ดีนั้น ควรออกแบบให้สอดคล้องกับบุคลิก และสไตล์ที่สามารถสะท้อนถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ เช่น การเลือกใช้วัสดุ สี และการตกแต่งภายใน รวมถึงภายนอกที่มีความเหมาะสม และสอดคล้องกัน
3. ความแข็งแรง และปลอดภัย
เมื่อพูดถึงการอยู่อาศัยแล้ว แบบบ้านที่ดีควรมีความแข็งแรง และความปลอดภัย ทั้งตัวโครงสร้างของบ้านที่ควรทนทานต่อสภาพอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี และปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังควรมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ เช่น ประตูรั้วที่แข็งแรง กล้องวงจรปิด หรือระบบเตือนภัย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัย และมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
4. การประหยัดพลังงาน
การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน เป็นอีกหนึ่งข้อควรรู้ที่สำคัญ เพราะบ้านที่มีการระบายอากาศที่ดี และใช้แสงธรรมชาติมากที่สุด จะช่วยลดการใช้พลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือไฟฟ้าได้ดี
นอกจากนี้ การเลือกใช้วัสดุที่มีประสิทธิภาพในการเก็บความร้อน หรือความเย็น ก็สามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้อีกทางหนึ่ง เช่นเดียวกับการเลือกใช้ระบบแสงสว่างที่ประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น หลอดไฟ LED หรือเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5. สิ่งแวดล้อม
แบบบ้านที่ดีควรมีความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการวางผังบ้านที่คำนึงถึงทิศทางลม แสงแดด หรือการจัดพื้นที่สีเขียว ที่ช่วยให้บ้านดูร่มรื่น และน่าอยู่อาศัย นอกจากนี้ การมีพื้นที่สีเขียวภายในบ้านยังช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศ และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
เทคนิคจัดตำแหน่ง และทิศทางให้บ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตามหลักฮวงจุ้ย
เมื่อเลือกแบบบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการได้แล้ว การสร้างบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเสริมความเป็นมงคล และดึงดูดพลังงานดี ๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย โดยการสร้างบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจาก สามารถทำให้กระแสอากาศไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้พลังงานดีเข้ามาในบ้านได้อย่างเต็มที่ ดังนี้
ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน
หน้าบ้าน เป็นจุดแรกที่แขกจะได้เห็นเมื่อมาบ้าน การจัดการบริเวณหน้าบ้านให้สะอาด และเป็นระเบียบเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับภาพลักษณ์ของบ้านแล้ว ยังช่วยให้ดึงดูดโชคลาภ และพลังงานดีเข้ามาในบ้านได้อย่างราบรื่นโดยไม่ถูกขัดขวาง
การเลือกประตูบ้านที่เหมาะกับแบบบ้าน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ โดยประตูบ้านควรเป็นบานใหญ่ และค่อนข้างสูง เพื่อช่วยเปิดทางให้พลังงานดีสามารถไหลเข้าสู่บ้านได้อย่างเต็มที่ และอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ การจัดการทางเข้าบ้าน เพราะทางเข้าบ้านที่ถูกต้องไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง หรืออุปสรรคที่จะทำให้พลังงานดีไม่สามารถไหลเข้าสู่บ้านได้ ซึ่งการจัดให้ทางเข้าบ้านมีความสะอาดตา และมีแสงสว่างที่เพียงพอ จะช่วยให้พลังงานดีนั้นไหลเข้าสู่บ้านได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ การตกแต่งหน้าบ้านด้วยต้นไม้ ก็สามารถเสริมความเป็นมงคล และความอุดมสมบูรณ์ให้กับบ้านได้ หรือการมีสระน้ำ หรือน้ำพุในบริเวณหน้าบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเสริมฮวงจุ้ยตามหลักการสร้างบ้าน เนื่องจาก น้ำเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และโชคลาภ ที่จะช่วยให้บ้านเย็นสบายและดึงดูดโชคลาภเข้ามา
ฮวงจุ้ยห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร
ห้องครัว เป็นหัวใจของบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ตำแหน่งห้องครัวที่ถูกต้อง คือ ควรอยู่ทางทิศใต้ หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่มีแสงสว่างจากธรรมชาติที่ดี และช่วยเพิ่มพลังงานความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นทิศที่เสริมดวงให้กับเรื่องการเงิน และความเจริญรุ่งเรือง
นอกจากนี้ การออกแบบพื้นที่ห้องครัว ควรให้พื้นที่ภายในเปิดโล่ง และมีการระบายอากาศที่ดี เพื่อไม่ให้ความร้อน และควันสะสมอยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ การวางตำแหน่งเตาไฟ ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกับประตูทางเข้า เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงาน
ฮวงจุ้ยห้องนอน
ตำแหน่งของห้องนอน ควรอยู่ในบริเวณที่สงบ และไร้เสียงรบกวน เพื่อให้การนอนหลับเป็นไปอย่างเต็มที่ อย่าง บริเวณหลังบ้าน ที่เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องนอนหลัก เพราะอยู่ห่างไกลจากพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว อีกทั้งตำแหน่งของห้องนอน ควรอยู่ในบริเวณที่พลังงานไหลเวียนดี เช่น ใกล้กับทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก ที่เป็นทิศทางที่ส่งเสริมพลังงานบวก
ฮวงจุ้ยห้องทำงาน
การจัดห้องทำงานให้ถูกหลักฮวงจุ้ย จะช่วยเสริมสร้างความสำเร็จในการทำงาน ดึงดูดโชคลาภ และขจัดปัญหาอุปสรรคในการทำงาน การวางโต๊ะทำงานในตำแหน่งที่ถูกต้อง และเสริมด้วยวัตถุมงคล จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
การออกแบบห้องทำงานตามหลักฮวงจุ้ย จะช่วยเสริมสร้างพลังงานบวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยคุณควรเลือกตำแหน่งห้องทำงานให้อยู่ในมุมที่เงียบสงบ และไม่มีสิ่งรบกวน ทั้งนี้ อาจจัดโต๊ะทำงานให้หันหน้าเข้าหาประตู แต่ไม่ตรงกับประตู เพื่อเปิดรับพลังงานที่ดี และควรหลีกเลี่ยงการนั่งหันหลังให้กับประตู หรือหน้าต่าง เพื่อไม่ให้พลังงานดีถูกผลักออกไป
ฮวงจุ้ยห้องรับแขก และห้องนั่งเล่น
ห้องรับแขกเปรียบเสมือนหน้าตาของบ้าน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และตกแต่งห้องรับแขกด้วยสีโทนร้อน จะช่วยเสริมความอบอุ่น และความกลมเกลียวให้กับครอบครัว
หากคุณกำลังมองหาแบบบ้านที่ดี และสอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยเพื่อเสริมดวง และนำโชคลาภเข้ามาในชีวิต Royal House พร้อมให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญ รวมถึงประสบการณ์มากกว่า 38 ปีในการออกแบบ และก่อสร้างบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้บ้านของคุณไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังช่วยเสริมสร้างพลังงานดี และความเป็นมงคลให้กับชีวิต หากสนใจติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse