บ้าน VS คอนโด เลือกแบบไหนที่ใช่กับไลฟ์สไตล์คุณ เพราะการตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดไม่ใช่เรื่องเล็ก จึงต้องคิดและพิจารณาเพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ตรงกับจุดประสงค์ การใช้ชีวิต ความสะดวกสบายที่คุณต้องการ นอกจากนี้ คุณยังต้องพิจารณาด้วยว่า หากคุณต้องการที่อยู่อาศัยที่พร้อมเข้าอยู่ในทันที ไม่ต้องเสียเวลาสร้าง การซื้อคอนโดก็จะตอบโจทย์มากกว่า แต่หากต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถออกแบบและตกแต่งได้ตามความต้องการ การเลือก บริษัทรับสร้างบ้าน มาสร้างบ้านให้กับคุณ ก็จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้มากกว่า ลองตั้งคำถามกับตนเอง 2 ข้อ แล้วลองคิดว่าตัวเองเหมาะกับบ้านหรือคอนโดมากกว่ากัน
ทำไมคุณถึงต้องซื้อบ้าน
สถานที่พักผ่อนที่กว้างขวาง ดีไซน์สวย ทันสมัย แถมจะหยิบจับทำอะไรก็สบายตัว เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนใครมากเท่าการพักในคอนโด ซึ่งบ้านมักจะเหมาะกับการอยู่หลายคน อยู่แบบครอบครัวใหญ่ แถมยังได้พื้นที่ไว้ทำอย่างอื่นได้อีกตั้งเยอะ นอกจากนี้ การสร้างบ้านในปัจจุบัน ก็มีความสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก เนื่องจากมี บริษัทรับสร้างบ้าน ที่คอยให้บริการและดูแลตลอดขั้นตอนการก่อสร้าง
ทำไมคุณถึงต้องซื้อคอนโด
สำหรับใครไม่ต้องการเสียเวลาในการดูแลอะไรมากมาย และพักอาศัยอยู่เพียงแค่ไม่กี่คน การอยู่ในบ้านหลังอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากมากเกินที่จะต้องมาดูแล การอยู่คอนโดมิเนียมสักที่จึงเป็นเรื่องที่สะดวกสบายกว่ามาก นอกจากนี้ยังมีเหตุผลดีๆที่เราควรซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการพักอาศัย
บ้าน VS คอนโด แบบไหนที่ใช่มากกว่ากัน
ถ้าหาก 2 ข้อนี้คุณอาจจะยังไม่มั่นใจว่า บ้าน VS คอนโด แบบไหนที่ใช่ตัวคุณมากกว่ากัน ให้ลองคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้
ทำเล
ในเรื่องของทำเล คอนโดจะได้เปรียบในเรื่องทำเลมากกว่าบ้าน เพราะการจัดหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการสามารถทำได้ตั้งแต่ขนาดไม่กี่ไร่ ทำเลของคอนโดส่วนใหญ่จึงมักอยู่ภายในเมืองติดริมถนน และใกล้รถไฟฟ้า อาจมีบ้างที่ตั้งอยู่ภายในซอยแต่ก็ไม่ลึกมาก ทำให้เดินทางสะดวกและประหยัดเวลาได้มากกว่า ส่วนหมู่บ้านจัดสรรทำเลมักอยู่ตามชานเมืองต้องเข้าซอยลึก หากอยากได้หมู่บ้านที่อยู่ในเมืองเดินทางสะดวกก็จะต้องแลกมากับราคาขายที่สูงมาก
ที่จอดรถ
การอยู่บ้านยังไงก็มีที่จอดรถส่วนตัวในบ้านของตัวเอง ขับรถกลับมาดึกแค่ไหนยังไงก็มีที่จอด ไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถให้เหนื่อย แถมจอดรถเสร็จก็สามารถเดินเข้าบ้านได้เลยสบายชิลๆ บางโครงการจอดได้มากกว่า 1 คัน แต่สำหรับคอนโดนั้นจะเป็นพื้นจอดรถส่วนกลางที่ต้องแชร์กับลูกบ้านภายในโครงการ จำนวนที่จอดรถมีไม่ครบทุกยูนิต ส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 – 40% ของจำนวนห้องทั้งหมด จึงมีโอกาสสูงที่ที่จอดรถจะไม่เพียงพอ แต่ปัจจุบันก็มีหลายโครงการที่ให้ความสำคัญกับที่จอดรถมากขึ้น และสามารถจอดรถได้ถึง 100% เต็ม และบางโครงการยังใช้ระบบ “Auto parking” หรือ “ระบบจอดรถอัตโนมัติ” ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน ประหยัดเวลาในการจอด และทำให้จอดรถได้มากยิ่งขึ้น แต่ถึงยังไงจอดรถแล้วก็ต้องเดินต่อไปอีกกว่าจะถึงห้อง ยิ่งถ้าต้องหอบของพะรุงพะรังด้วยแล้ว งานนี้มีเหนื่อยแน่นอน
จำนวนคนในครอบครัว
หากครอบครัวของคุณมีจำนวนสมาชิกหลายคน การเลือกซื้อบ้านน่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับครอบครัวของคุณมากกว่าเลือกซื้อคอนโด เพราะบ้านมีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่ารองรับการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัวได้ดีกว่า เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีผู้สูงอายุ และครอบครัวที่กำลังวางแผนจะขยายครอบครัว แต่งงาน และกำลังจะมีลูก ส่วนการเลือกอยู่คอนโดห้องแบบสตูดิโอ หรือห้องแบบ 1 ห้องนอน น่าจะเหมาะสมกับคนในวัยทำงานที่มีสมาชิกครอบครัวอยู่อาศัยร่วมกันแค่ 1-3 คน เท่านั้น แต่หากเป็นครอบครัวใหญ่คุณจะต้องซื้อห้องขนาดใหญ่แบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป นั้นหมายถึงงบประมาณที่ต้องจ่ายสูงขึ้นตามไปด้วย
วิว
เรื่องวิวเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นและเป็นข้อได้เปรียบของคอนโดมากกว่าบ้านแน่นอน ถ้าความสุขของคุณคือการนั่งชื่นชมวิวเมือง หรือแสงไฟยามค่ำคืนจากที่สูง หรือการชมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาสวยๆ คุณคงต้องเลือกซื้อคอนโดแล้วล่ะ ส่วนบ้านถ้าซื้อเป็นบ้านที่มีบริเวณพื้นที่รอบบ้านก็คงพอจะเนรมิตวิวสวนสีเขียวเล็กๆ ไว้ดูเล่นให้พอได้ชุ่มชื่นหัวใจได้อยู่บ้าง แต่วิวเมืองคงไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่อยากอยู่บ้าน
พื้นที่ใช้สอย
บ้านต่อให้เป็นอาคารพาณิชย์หรือทาวน์โฮมยังไงก็มีพื้นที่ใช้งานมากกว่าคอนโด ยิ่งถ้าใครชอบปลูกต้นไม้ ชอบทำสวนครัว บ้านน่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกับคุณมากกว่า ส่วนคอนโดค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด โดยห้องขนาดเล็กสุดตามที่กฎหมายอนุญาตคือห้องขนาด 20 ตร.ม. ไม่สามารถขยับขยายหรือต่อเติมห้องเพิ่มขึ้นภายหลังได้ หากคุณอยากได้พื้นที่ใช้สอยมากๆ ก็ต้องเลือกซื้อห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่แรก ซึ่งตามมาด้วยราคาที่แพงมาก แต่ยังไงก็ยังคงได้พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าการเลือกซื้อบ้านแน่นอน
สิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกถือเป็นจุดเด่น หรือไฮไลท์อีกอย่างของคอนโดมิเนียมเลยก็ว่าได้ เพราะคอนโดแต่ละโครงการออกแบบและจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายมาก ยกตัวอย่างเช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนหย่อม, Co-Working Space, Sky Lounge, Jacuzzi, Onsen, Sauna, Meeting room ฯลฯ แต่สำหรับบ้านส่วนกลางที่ให้มา มาตรฐานส่วนใหญ่จะมีเพียง คลับเฮาส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น เท่านั้น หรือหากซื้อบ้านตามโครงการขนาดเล็กๆ ก็อาจจะไม่มีส่วนกลางมาให้เลย ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ชอบใช้ facility ส่วนกลางเพื่อออกกำลังกายหรือผ่อนคลาย การเลือกซื้อคอนโดน่าจะเป็นคำตอบของคุณมากกว่าบ้าน คอนโดบางโครงการนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังสามารถชมวิวเมืองสวย ๆ ไปพร้อมกันทีเดียวได้ด้วย
การเลี้ยงสัตว์
การเลือกซื้อบ้านจะได้เปรียบและเหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์มากกว่าคอนโด เพราะการอยู่บ้านไม่มีใครบังคับให้คุณเลี้ยงหรือไม่เลี้ยงสัตว์ภายในบ้านของคุณเองได้ ตราบใดที่สัตว์เลี้ยงของคุณไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร คุณก็มีอิสระในการเลี้ยงสัตว์ในบ้านของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่วนการอยู่อาศัยในคอนโดแน่นอนว่าโครงการส่วนใหญ่มักไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ แต่ปัจจุบันก็มีหลายโครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้โดยไม่ต้องแอบอีกต่อไป นอกจากนี้ยังจัดพื้นที่ Pet Zone สำหรับสัตว์เลี้ยงมาให้ด้วย แต่ถึงอย่างไรการเลี้ยงสัตว์ในห้องเล็ก ๆ ก็ไม่สะดวกสบายเท่ากับการเลี้ยงที่บ้าน ดังนั้นถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนรักสัตว์ ที่ชีวิตนี้คงขาดหมาแมวไม่ได้ ควรเลือกซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าคอนโด
ความปลอดภัย
การอยู่บ้านและคอนโดต่างก็มีข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบที่แตกต่างกันไป อาทิเช่น คอนโดจะได้เปรียบในการความปลอดภัย เนื่องจากมีพื้นที่ภายในโครงการน้อย มีทางเข้าออกทางเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงมากกว่าโครงการบ้าน นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่ส่วนกลางและโถงทางเดินบนชั้นพักอาศัย บางโครงการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ด้วย ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงที่คนแปลกหน้าหรือโจรขโมยจะเข้าไปยังห้องพักอาศัยของคุณได้ แต่หากเกิดกรณีเพลิงไหม้ หรือการเกิดแผ่นดินไหว การอยู่คอนโดก็จะมีความเสี่ยงสูงและมีความปลอดภัยน้อยกว่าการอยู่บ้าน เพราะคอนโดส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้นสูงและหนีออกได้เฉพาะทางหนีไฟเท่านั้น แต่ยังไงก็ตามการบริหารและจัดการของนิติบุคคลที่ดีก็เป็นอีกส่วนที่คุณต้องให้ความสำคัญและนำมาพิจารณาประกอบด้วย
ค่าส่วนกลาง
ค่าส่วนกลาง บ้านมักจะได้เปรียบกว่าคอนโดอยู่นิดนึงตรงที่ ถ้าไม่ได้ซื้อบ้านตามโครงการก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลาง จะมีก็แค่ค่าเก็บขยะรายเดือน ส่วนถ้ามีบ้านอยู่ตามโครงการก็ต้องเสียค่าส่วนกลางเหมือนกันการอยู่คอนโด โดยค่าส่วนกลางจะถูกหรือแพงนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้านหรือคอนโดนั้นๆ โดยอัตราค่าส่วนกลางคอนโดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 – 170 บาท/ตารางเมตร ส่วนอัตราค่าส่วนกลางบ้านจัดสรรจะอยู่ที่ประมาณ 29 – 200 บาท/ตารางวา แต่ทั้งบ้านและคอนโดต่อให้ซื้อแล้วไม่เข้าอยู่อาศัยยังไงคุณก็ต้องจ่ายค่าส่วนกลางต่อเดือนเป็นหลักพันกว่าบาทขึ้นไปอยู่ดี
การลงทุน
ต้องยอมรับว่าการลงทุนคอนโดเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อสามารถที่จะซื้อมาขายไปได้ง่ายและเร็วกว่าบ้านเนื่องจากมีขนาดห้องที่เล็กกว่า ค่าเช่าที่ถูกกว่าทำให้หาผู้เช่าได้ง่ายกว่า รวมไปถึงการขายต่อก็ยังสามารถปล่อยขายได้ง่ายกว่าเช่นกัน เพราะมีราคาที่ไม่สูงเท่ากับบ้านเมื่อเทียบกับทำเลเดียวกันทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อมากกว่า แต่ทั้งนี้คอนโดทุกที่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถปล่อยขายได้ง่ายๆ เหมือนกันทั้งหมด เพราะยังมีปัจจัยอย่างอื่นที่ต้องพิจารณาประกอบเพิ่มเติม อย่างเช่น ทำเล และประสิทธิภาพในการบริหารโครงการของนิติบุคคล เป็นต้น
จากข้อมูลเบื้องต้นที่ทางรอแยลเฮ้าส์ได้รวบรวมมาให้ หวังว่าจะช่วยทำให้ใครหลาย ๆ คนสามารถตัดสินใจได้ว่า บ้าน VS คอนโด แบบไหนกันนะที่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณที่สุด
และหากคุณกำลังมองหา บริษัทรับสร้างบ้าน คุณสามารถไว้ใจรอแยลเฮ้าส์ได้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้านมากว่า 35 ปี เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างบ้านในฝันแบบที่คุณต้องการได้เพียงติดต่อมาที่ Line: @Royalhouse
