รับสร้างบ้าน กทม. อยากมีบ้านที่ใช่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

การสร้างบ้านในกรุงเทพมหานคร เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด และมีกฎหมายการก่อสร้างเป็นของตนเอง อีกทั้งในกรุงเทพฯ ยังเป็นศูนย์รวมของความเจริญ ดังนั้นการเลือกทำเลให้สะดวก และเหมาะสมต่อการใช้ชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการออกแบบ และการตกแต่งให้มีความทันสมัยเหมาะแก่การอยู่อาศัย 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการสร้างบ้านด้วยตัวเอง จำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญสำหรับให้คำปรึกษา และช่วยดำเนินการ ดังนั้น การจ้างบริษัท รับสร้างบ้าน จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการควบคุมการก่อสร้างให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และช่วยให้ลดความกังวลด้านความปลอดภัยในการสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ โดยวันนี้ Royal House จะมาแนะนำวิธีการเลือกบริษัท รับสร้างบ้าน  ที่ช่วยให้คุณได้บ้านที่ใช่ พร้อมกับการได้รับบริการที่ประทับใจ

6 ปัจจัยในการเลือกบริษัท รับสร้างบ้าน ให้มั่นใจ ไร้กังวลเรื่องการก่อสร้าง

บริษัทผู้รับเหมาสร้างบ้านนั้นมีอยู่มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะการเลือกจ้างบริษัท เป็นการดำเนินการที่มีรายละเอียดจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นการตกลงกันด้วยมูลค่าที่สูง และมีผลระยะยาวด้านการอยู่อาศัย โดยสำหรับหลายคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การสร้างบ้าน อาจจะยังไม่รู้ในวิธีการจัดหาผู้รับเหมา แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราได้รวบรวมทริคดี ๆ สำหรับการว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน มาให้ทุกคนได้เรียนรู้กัน ซึ่งสามารถเลือกได้ตามปัจจัย ดังต่อไปนี้

1. ประสบการณ์ และผลงานที่ผ่านมา

สิ่งสำคัญที่สุด คือ การพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของแต่ละบริษัท เพราะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด และตรวจสอบได้ว่าความต้องการของคุณตรงกับผลงานที่ช่างถนัดหรือไม่ โดยถ้าหากมีความต้องการตรงกันจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และได้บ้านแบบที่ตรงใจ อีกทั้งการเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ ยังเป็นสิ่งที่ช่วยรับประกันได้ว่า ช่างมีความน่าเชื่อถือ และมีความชำนาญในการก่อสร้างจนได้รับความไว้ใจจากผู้ใช้หลายราย

2. โปรไฟล์ของผู้ดำเนินการที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินการก่อสร้างบ้านนั้น จำเป็นต้องใช้บุคลากรหลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ผู้รับผิดชอบโครงการ วิศวกร ช่างรับเหมา หรือโฟร์แมน รวมถึงฝ่ายประสานงาน โดยทางที่ดีควรเลือกบริษัทที่มีการระบุคุณสมบัติของผู้ดำเนินการ เพื่อตรวจสอบความรู้ และความเชี่ยวชาญของผู้ที่เข้ามาดำเนินการก่อสร้าง และออกแบบบ้านของคุณได้อย่างมั่นใจ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้มีความสำคัญ เพราะจะช่วยให้สบายใจเรื่องความปลอดภัย รวมถึงช่วยลดความกังวลในเรื่องความผิดพลาดในการดำเนินการก่อสร้างบ้านได้

3. แบบแปลนบ้านที่มีการนำเสนอ

หนึ่งในวิธีการเลือกบริษัท รับสร้างบ้าน คือ การดูแบบแปลนบ้านที่ทางบริษัทมีให้เลือก เพราะทำให้รู้ว่าช่างมีความถนัดในการออกแบบบ้านสไตล์ไหน อีกทั้งยังเป็นแบบบ้านที่สามารถเลือกได้ โดยไม่ต้องออกแบบเอง หรือไปตามหาจากที่อื่น โดยบริษัทที่ดี ควรมีแบบแปลนบ้านหลากหลายสไตล์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น บ้านชั้นเดียว หรือบ้าน 2 ชั้นขึ้นไป และแบบบ้านควรมีสไตล์บ้านที่ได้รับความนิยม อย่างเช่น บ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านสไตล์ลอฟต์ หรือสไตล์คลาสสิก เพื่อประกอบการตัดสินใจของลูกค้าหลากหลายสไตล์

4. งบประมาณการก่อสร้าง

งบประมาณ เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากแต่ละบริษัทนั้นมีการตั้งราคาแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรง หรือค่าวัสดุ แต่อย่างไรก็ตาม คุณภาพต่าง ๆ ในการก่อสร้าง ก็มักจะเป็นไปตามราคา ดังนั้นจึงต้องคำนวณความคุ้มค่าให้ดี เพราะหากเลือกราคาถูกเกินไป อาจได้การทำงานที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นการกำหนดงบประมาณจึงต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น โปรไฟล์ของผู้ดำเนินงาน และราคาของวัสดุอุปกรณ์

5. ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

นอกจากด้านเนื้องานที่ต้องตรวจสอบแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ การสื่อสาร และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบริษัทรับสร้างบ้านกับผู้ว่าจ้าง โดยการบริการที่จริงใจ และใส่ใจลูกค้า เป็นสิ่งที่ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น  อีกทั้งการสร้างบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลายาวนาน ดังนั้นการรักษาความสัมพันธ์อันดีให้อยู่ตลอดรอดฝั่ง จะช่วยให้สบายใจทั้งช่าง และผู้ว่าจ้าง โดยสิ่งที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ได้ก็คือการสื่อสาร ซึ่งบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกคนควรมีทักษะในด้านนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินการ

6. ความรู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร

บริษัทรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานครเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องภูมิประเทศ เขตการก่อสร้าง และกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างบ้าน เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่พิเศษที่ต้องศึกษาเรื่องความถูกต้อง ทั้งนี้บริษัทหลายแห่ง มักมีฝ่ายประสานงานผู้เดินเรื่องในการติดต่อส่วนข้าราชการ เรื่องการขออนุญาตดำเนินการก่อสร้าง และข้อควรปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งเป็นการบริการที่ดีโดยที่ผู้ว่าจ้างไม่ต้องยุ่งยากด้วยตัวเอง ดังนั้นจึง ควรเลือกผู้ที่ความรู้เฉพาะเจาะจงในพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร

และทั้งหมดนี้ก็คือหลักการเลือกบริษัท รับสร้างบ้าน ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง หากพิจารณาตามหลักการ และได้คำตอบที่ตรงใจ ก็จะทำให้ได้บ้านในฝันแบบที่ใช่ ด้วยการก่อสร้างที่ได้คุณภาพ และมีมาตรฐาน โดย Royal House ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีประสบการณ์อย่างยาวนาน มาพร้อมกับงานคุณภาพ โดยผู้มีความรู้ และความเชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษา รวมถึงการให้บริการ รับสร้างบ้าน ทั้งในกรุงเทพมหานคร และทั่วประเทศ  หากต้องการปรึกษา หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่ Line: @royalhouse