เริ่มวางแผนสร้างบ้านหรูอย่างไร ให้ตอบโจทย์สังคมสูงวัย

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบ (Aged Society) โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในปี 2567 ระบุว่า ไทยมีสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มากถึง 20% หรือประมาณ 13 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน ซึ่งการเติบโตของสังคมสูงวัยนี้ ทำให้การวางแผนสร้างบ้านหรู ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบที่เน้นความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการดูแลสุขภาพในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การวางแผนสร้างบ้านหรู สำหรับผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีแผนที่ชัดเจน ทั้งการบริหารจัดการเรื่องสร้างบ้าน แบบบ้าน และงบประมาณ รวมถึงการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงตามความคาดหวัง และงบประมาณตามที่กำหนด ในบทความนี้ Royal House ได้รวมแนวทางวางแผนสร้างบ้าน แบบครบ จบ ได้บ้านตรงปก และงบไม่บานปลายมาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

เรื่องต้องรู้ ! เพื่อการวางแผนสร้างบ้านหรู ที่เหมาะกับสังคมสูงวัย

การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านหรู และเข้าใจความต้องการเฉพาะของผู้สูงอายุเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีแนวทางที่ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. วิเคราะห์ความต้องการของผู้สูงอายุ

ก่อนเริ่มการวางแผนสร้างบ้าน ควรเริ่มทำความเข้าใจความต้องการของผู้สูงอายุก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจาก การสร้างบ้านสำหรับผู้สูงวัย ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ดังต่อไปนี้

• ความปลอดภัย

บ้านที่ตอบโจทย์สังคมสูงวัย ควรออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การติดตั้งราวจับในห้องน้ำ การเลือกพื้นบ้านที่ไม่ลื่น และการออกแบบบันไดที่ไม่สูงชันเกินไป เป็นต้น

• ความสะดวกสบาย

ความสะดวกสบายในการใช้งานพื้นที่ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ควรพิจารณา เช่น ห้องนอนควรตั้งอยู่ชั้นล่าง เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันได หรือการจัดพื้นที่ใช้สอยให้เรียบง่าย และเข้าถึงง่าย

• ระบบการดูแลสุขภาพที่ดี

การออกแบบบ้านที่ดี ควรคำนึงถึงการระบายอากาศที่ดี แสงสว่างเพียงพอ และระบบการดูแลสุขภาพ อย่างเช่น ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน

2. การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์

การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านหรู และเข้าใจความต้องการของผู้สูงวัย จะช่วยให้การวางแผน และการก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงช่วยให้บ้านที่สร้างเสร็จเป็นไปตามที่คาดหวังทั้งในด้านดีไซน์ และคุณภาพที่ตรงตามมาตรฐาน โดยมีเกณฑ์การตัดสินใจ ดังนี้

• ประสบการณ์ในวงการ

การตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ควรเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานในการสร้างบ้านหรู รวมถึงมีความเชี่ยวชาญ ที่จะให้คำแนะนำในการเลือกวัสดุ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม

• ผลงานที่น่าเชื่อถือ

การตรวจสอบผลงาน ของบริษัทรับสร้างบ้าน ถือเป็นการประกันคุณภาพวิธีหนึ่ง โดยควรดูโครงการที่เสร็จสิ้นแล้ว หรือขอคำแนะนำจากลูกค้าเก่า ที่เคยใช้บริการของบริษัทนั้น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทสามารถสร้างบ้านที่ตรงตามความต้องการได้

• บริการหลังการขาย

บ้านเป็นสิ่งที่ต้องการการดูแลรักษาในระยะยาว ซึ่งการเลือกบริษัทที่มีบริการหลังการขายที่ดี จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ ว่าหากเกิดปัญหาใด ๆ หลังจากการสร้างเสร็จ จะได้รับการดูแล และแก้ไขอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากต้องการปรึกษา หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ Royal House ได้ที่ Line: @royalhouse

3. การออกแบบบ้านหรูที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ

การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัย ได้แก่

• การจัดการพื้นที่

อันดับแรก ควรจัดการพื้นที่อย่างเรียบง่าย โดยห้องนอนหลักควรอยู่ที่ชั้นล่าง เพื่อลดการเดินขึ้นลงบันได นอกจากนี้ พื้นที่ทางเดินควรกว้างพอสำหรับรถเข็น หรืออุปกรณ์ช่วยเดิน รวมถึงการใช้ประตูที่ไม่มีธรณีประตู เพื่อป้องกันการสะดุดล้ม

• การเลือกวัสดุ

สำหรับวัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้าน ควรเน้นไปที่ความปลอดภัย และความทนทาน อีกทั้งการปูพื้นควรเลือกใช้วัสดุที่ไม่ลื่น เช่น กระเบื้องกันลื่น หรือพื้นไม้ที่มีพื้นผิวไม่เรียบ เป็นต้น อีกทั้ง วัสดุที่ใช้ในห้องน้ำก็ควรเน้นที่ความทนทาน และการป้องกันการลื่นได้

• การใช้เทคโนโลยี

สำหรับการติดตั้งเทคโนโลยี เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุ เช่น 

• ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Lighting System)
• กลอนประตูดิจิตอล (Digital Door Lock)
• โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ (Smart Toilet)
• ก๊อกน้ำอัตโนมัติ (Smart Faucet)
• เครื่องตรวจวัดอากาศอัจฉริยะ (Smart Air Quality Monitor)
• เซนเซอร์แจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน (Emergency Alert Devices)

4. งบประมาณ และการวางแผนการเงิน

การสร้างบ้านหรูสำหรับผู้สูงวัย ควรคำนึงถึงงบประมาณที่เหมาะสม และมีการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ เพราะช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่ทำให้งบประมาณบานปลาย 

นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้จัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยอาจเริ่มจากการวางแผนง่าย ๆ ดังนี้

• การตั้งงบประมาณที่ชัดเจน

ก่อนเริ่มสร้างบ้าน ควรตั้งงบประมาณที่ชัดเจน โดยพิจารณาทั้งค่าใช้จ่ายในการออกแบบ วัสดุ เทคโนโลยี และค่าแรงงาน อีกทั้งควรมีงบประมาณสำรองที่เพียงพอ เพื่อรองรับสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

• การคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในอนาคต

การสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุ อาจมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ที่มากกว่าบ้านทั่วไป เนื่องจาก ต้องมีการดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยอยู่เสมอ ทำให้การวางแผนการเงินระยะยาวเป็นที่สิ่งสำคัญ

5. การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

เนื่องจาก การสร้างบ้านที่รองรับผู้สูงวัย ไม่ใช่แค่การวางแผนสำหรับปัจจุบันเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงอนาคตด้วย ดังนั้น การออกแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ ดังต่อไปนี้

• การปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งาน

บ้าน ควรมีพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เช่น ห้องนอนชั้นล่าง ที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนหลัก หรือพื้นที่ที่สามารถเพิ่มห้องน้ำ สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเฉพาะ

• การเตรียมความพร้อมสำหรับการดูแล

การสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ควรเตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลระยะยาว เช่น การมีพื้นที่สำหรับพยาบาล หรือผู้ดูแล รวมถึงมีการเตรียมความพร้อม ในการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด เตียงผู้ป่วย รถเข็นวีลแชร์ หรือ อุปกรณ์เคลื่อนย้ายสำหรับผู้ป่วย เป็นต้น

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่กำลังอยากสร้างบ้านหรู ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ขอให้นึกถึง Royal House บริษัทรับสร้างบ้านหรู ที่มีประสบการณ์สร้างบ้านกว่า 38 ปี ซึ่งเข้าใจดีถึงความปลอดภัย และความต้องการต่าง ๆ ที่ควรคำนึงถึง สำหรับการสร้างบ้านให้ตรงใจผู้สูงวัย 

อีกทั้ง Royal House ยังมีแบบบ้านให้เลือกหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Modern, Contemporary, Tropical, Classic, Colonial, และ Tuscany โดยลูกค้าสามารถปรับฟังก์ชันได้ตามความต้องการ ทั้งนี้ หากสนใจสามารถติดต่อเราวันนี้ เพื่อเริ่มต้นการสร้างบ้านของคุณได้ทันที Line: @royalhouse