ความนิยมของแบบบ้านนั้นเปลี่ยนไปทุกปี เมื่อก่อนเราจะเห็นว่าสไตล์บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ บ้านสไตล์โมเดิร์น ต่อมาก็กลายเป็นบ้านสไตล์มินิมอล และล่าสุดในปัจจุบัน คือ แบบบ้านสไตล์นอร์ดิก
ซึ่งความนิยมนี้ไม่ได้มาโดยบังเอิญ เพราะบ้านสไตล์นอร์ดิกเป็นการต่อยอดจากความมินิมอล และเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ด้วยการออกแบบที่เน้นความโปร่งโล่ง สบายตา และสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในเขตเมืองหนาว สไตล์นี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนที่ต้องการความสงบ และความสวยงามที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์
ในวันนี้ Royal House จะพาคุณมาทำความรู้จักกับแบบบ้านนอร์ดิก ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้ ไม่ว่าคุณจะมองหาไอเดีย หรือแบบบ้านฟรี สไตล์นอร์ดิกจะมอบแรงบันดาลใจให้กับคุณอย่างแน่นอน มาดูกันว่าบ้านสไตล์นี้มีที่มาอย่างไร และมีจุดเด่นที่น่าสนใจอะไรบ้าง ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักบ้านสไตล์นี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย !
สำรวจที่มาของ “แบบบ้านนอร์ดิก” สไตล์ยอดฮิตที่มองไปทางไหนก็เจอ
บ้านทุกสไตล์ ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละพื้นที่ บ้านสไตล์นอร์ดิกก็เช่นกัน เป็นแบบบ้านที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) โดยคำว่า “นอร์ดิก” คือคำใช้เรียกพื้นที่แถบคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย คาบสมุทรจัตแลนด์ และเกาะไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นคาบสมุทรที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็น ผืนป่ากว้างใหญ่ ภูเขาสูงชัน ลำธารใสสะอาด หมู่เกาะที่กระจายตัวอยู่ทั่ว และฟยอร์ด ซึ่งเป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล แถบสแกนดิเนเวีย มีภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 17 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนในแถบนี้มีโอกาสได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม และเรียบง่ายอย่างใกล้ชิด ดังนั้น เมืองต่าง ๆ ในสแกนดิเนเวีย จึงได้รับการออกแบบให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ มีสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่อบอุ่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้วยความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นนี้ บ้านสไตล์นอร์ดิกจึงได้รับความนิยมแพร่หลาย จากภูมิภาคสแกนดิเนเวียไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก โดยมีการออกแบบที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ การจัดพื้นที่ให้มีความโปร่งโล่งสบาย และการใช้โทนสีที่สร้างบรรยากาศสงบสบายตา ทำให้บ้านสไตล์นี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน
ไขคำตอบ ทำไมแบบบ้านสไตล์นอร์ดิกถึงนิยมในประเทศไทย ?
เหตุผลที่บ้านสไตล์นอร์ดิก ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการออกแบบที่เน้นรูปทรงหลังคาที่ชัดเจน และมีลักษณะเฉพาะตัว อีกทั้งการใช้กระจกก็เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง สบายตา และเชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างลงตัว
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อม และวิวทิวทัศน์สวยงาม บ้านสไตล์นอร์ดิกตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว เพราะการออกแบบที่เน้นให้บ้านกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบตัว จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ และผ่อนคลาย ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับธรรมชาติในทุก ๆ วัน จึงไม่แปลกที่บ้านสไตล์นอร์ดิก จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรง ในวงการสร้างบ้านของประเทศไทย
พาส่อง! จุดเด่นโดนใจผู้อยู่อาศัย สไตล์นอร์ดิกมีเอกลักษณ์อย่างไร ?
ในปัจจุบัน แบบบ้านมีให้เลือกอยู่หลากหลาย ซึ่งแต่ละแบบอาจดูคล้ายคลึงกันในสายตาของหลาย ๆ คน ทว่าความจริงแล้ว บ้านแต่ละสไตล์กลับมีจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้จะส่งผลต่อการออกแบบภายใน-ภายนอก และบรรยากาศของบ้าน ดังนั้น การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของบ้าน แต่ละสไตล์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด
หลังคาสามเหลี่ยมทรงสูง
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับบ้านสไตล์นอร์ดิก คือ หลังคาทรงสูง ซึ่งแตกต่างจากแบบบ้านในไทยที่มีอยู่ทั่วไป หลังคาทรงสูงนี้มักจะลาดเอียงจากมุมสูงลงมาเป็นส่วนเดียวกับผนังบ้าน โดยไม่มีชายคายื่นออกมา ซึ่งเป็นการออกแบบที่แปลกใหม่ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ว่าหลังคาทรงจั่วจะเป็นที่คุ้นเคยสำหรับคนไทย แต่การออกแบบที่ไม่มีชายคายื่นนั้นสร้างความโดดเด่น และงดงามให้กับบ้านสไตล์นอร์ดิกได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ หลังคาทรงสูง ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะในบริบทของชาวสแกนดิเนเวียที่รัก และเคารพธรรมชาติ โดยรูปทรงที่คล้ายภูเขาของหลังคา จะสะท้อนถึงความใกล้ชิดกับธรรมชาติ และการใช้ชีวิตท่ามกลางภูเขาที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ
บ้านโปร่ง เปิดโล่ง มีกระจกเป็นส่วนประกอบ
เนื่องจาก บ้านนอร์ดิกมีหลังคาทรงสูง ระยะห่างระหว่างพื้นบ้าน และเพดานจึงมีมาก ส่งผลให้บ้านมีความปลอดโปร่ง ไม่อึดอัดคับแคบ อีกทั้งการตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ หรือการติดกระจกใสตามผนังของบ้าน ก็เป็นการเปิดช่องให้แสงเข้ามาได้มาก ช่วยเพิ่มแสงสว่าง และความอบอุ่นได้ดี
อีกทั้ง บ้านในแถบนอร์ดิก จะมีอากาศหนาวเย็น และมีหิมะ จึงต้องมีช่องให้แสงแดดเข้ามาเพิ่มอุณหภูมิ แต่เมืองไทยเป็นประเทศเขตร้อน จึงควรใช้กระจกที่กันความร้อน หรือมีการสร้างชายคา เพิ่มเพื่อป้องกันแสงแดดที่เข้ามามากเกินไป
ตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน
บ้านสไตล์นอร์ดิก มักเน้นเรื่องความอบอุ่นเป็นหลัก ดังนั้น สีที่ตอบโจทย์มากที่สุด คือสีเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาล สีครีม สีเขียวแก่ ซึ่งสีเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยกำหนดความรู้สึกของผู้พบเห็น แต่ยังสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา และสบายใจได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การใช้สีเอิร์ธโทนยังมีคุณสมบัติพิเศษ ในการทำให้บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่น และเป็นกันเองมากขึ้น จึงเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในรูปแบบครอบครัว เพราะสีเหล่านี้สามารถสร้างสรรค์พื้นที่ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และความสุขได้ ซึ่งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ และความผูกพันในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ใกล้ชิดธรรมชาติ และสะอาดตา
บ้านนอร์ดิก เป็นสไตล์ใกล้ชิดธรรมชาติที่ไม่ได้เน้นสีเขียว แต่เน้นการตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน และคอนกรีต อีกทั้งการลดองค์ประกอบต่าง ๆ จะให้ความรู้สึกเหมือนได้หวนคืนสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ ต้องคำนึงว่าหากใช้วัสดุที่แข็งกระด้างเกินไป อาจทำให้บ้านตึงเครียดได้ จึงควรเพิ่มเฟอร์นิเจอร์สิ่งทอ ที่มีความอ่อนนุ่มอย่างขนสัตว์ หรือพรมต่าง ๆ แทรกเข้าไปในบริเวณต่าง ๆ ด้วย
ประยุกต์เข้ากับบ้านสไตล์อื่นได้
แบบบ้านสไตล์นอร์ดิก สามารถประยุกต์กับบ้านสไตล์มินิมอล และบ้านทรงโมเดิร์นได้ ด้วยแนวคิดการตกแต่งที่เรียบง่าย และลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งยังเป็นสไตล์บ้านที่ยังคงได้รับความนิยมในประเทศไทยอยู่เสมอมา เมื่อนำมาประยุกต์เข้าด้วยกัน ก็จะทำให้เกิดความพึงพอใจแก่ผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่กำลังสนใจสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก สามารถใช้บริการจาก Royal House ได้ เพราะเราเป็นบริษัทที่พร้อมให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการสำรวจที่ดิน การประสานงานกับหน่วยงานราชการ ไปจนถึงขั้นตอนการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse