การสร้างบ้าน เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของชีวิตที่หลายคนใฝ่ฝัน ซึ่งการได้บ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบาย ดีไซน์ที่ชอบ และคุณภาพที่ได้มาตรฐาน คือสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่การจะสร้างบ้านให้เป็นไปตามที่หวัง ไม่ได้มีแค่การเลือกซื้อที่ดิน และจ้างช่างมาทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่ต้องพิจารณา
การเลือกใช้บริการรับสร้างบ้านแบบครบวงจร จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการบ้านในฝันที่ทั้งสวยงาม และตรงตามความต้องการโดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหายุ่งยากหลายด้าน แล้วทำไมการเลือกบริการรับสร้างบ้านแบบครบวงจรถึงสำคัญ ? ในบทความนี้ Royal House จะพาคุณมาปลดล็อกทุกข้อสงสัยเอง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน
เรื่องต้องรู้ บริษัทรับสร้างบ้านที่มี “บริการแบบครบวงจร” เป็นอย่างไร ?
บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) คือบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในกระบวนการสร้างบ้าน ตั้งแต่การเริ่มต้นออกแบบ การวางแผน การจัดการงานก่อสร้าง จนกระทั่งส่งมอบบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ โดยไม่ต้องแยกจ้างงาน หรือหาผู้รับเหมาในแต่ละขั้นตอนเอง
ซึ่งบริษัทที่ให้บริการแบบครบวงจร จะมีทีมงานที่ครอบคลุมทุกแผนก เช่น สถาปนิก วิศวกร ช่างก่อสร้าง และนักออกแบบภายในให้ ทำให้เจ้าของบ้านสามารถมั่นใจได้ว่า บ้านจะถูกสร้างตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยไม่มีการสื่อสารที่ขาดตอน ทั้งนี้ การใช้บริการรับสร้างบ้านแบบครบวงจรนั้นมีข้อดีมากมาย ซึ่งจะแบ่งได้เป็นหลายขั้นตอน ดังนี้
การให้คำปรึกษา และวางแผนการออกแบบ
ขั้นตอนแรกของการสร้างบ้าน คือการออกแบบ และวางแผนให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยบริการที่ครบวงจรเริ่มต้นจากการให้คำปรึกษากับลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณที่มีอยู่ จากนั้นทีมสถาปนิกจะนำข้อมูลเหล่านี้ ไปพัฒนาแบบบ้านที่ตอบโจทย์ พร้อมทั้งคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานจริง
การขออนุญาตก่อสร้าง
หนึ่งในขั้นตอน ที่ยุ่งยากสำหรับการสร้างบ้าน คือการขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยบริษัทที่ให้บริการแบบครบวงจร จะช่วยคุณจัดการเรื่องเอกสาร และการยื่นขออนุญาตต่าง ๆ เพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง
การคัดเลือกวัสดุก่อสร้าง
การเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้าง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการสร้างบ้านที่แข็งแรง และมีคุณภาพ ทีมงานบริการครบวงจร จะมีการคัดเลือกวัสดุ จากผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้ และตรงตามสเปกที่กำหนดไว้ในแบบบ้าน ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงสร้างของบ้าน มีความปลอดภัย และมีความสวยงามตามที่วางแผนไว้
การดำเนินการก่อสร้าง
เมื่อทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการก่อสร้างจริง โดยทีมช่างก่อสร้างของบริษัทที่ให้บริการแบบครบวงจร จะรับผิดชอบการก่อสร้างทุกส่วนของบ้าน ตั้งแต่โครงสร้างหลัก พื้น ผนัง ระบบไฟฟ้า และประปา รวมถึงการติดตั้งระบบความปลอดภัย และความสะดวกต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องการ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องคอยประสานงานกับช่างในแต่ละส่วน
การตกแต่งภายใน
บริการครบวงจรไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่ยังครอบคลุมไปถึงการตกแต่งภายในให้บ้านพร้อมใช้งานจริง โดยทีมงานจะช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์ และการจัดวาง ที่สอดคล้องกับสไตล์ที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงการติดตั้งระบบต่าง ๆ อย่างเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ภายในบ้าน ทำให้บ้านพร้อมสำหรับการเข้าอยู่ทันที
การตรวจสอบ และส่งมอบบ้าน
หลังจากการก่อสร้าง และตกแต่งภายในเสร็จสมบูรณ์ บริษัทรับสร้างบ้าน จะทำการตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านถูกสร้างตามมาตรฐาน และแบบที่กำหนดไว้ จากนั้นจึงส่งมอบบ้านให้เจ้าของบ้านอย่างเป็นทางการ โดยบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว มักจะมาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพการก่อสร้าง ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้านว่า หากมีปัญหาหรือข้อบกพร่องใด ๆ ในภายหลังจะได้รับการดูแลแก้ไขอย่างรวดเร็ว
บริการหลังการขาย
หนึ่งในความพิเศษของบริการแบบครบวงจร คือการมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เช่น การเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านหลังจากการใช้งาน หรือการดูแลระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฟฟ้า ประปา หรือระบบระบายอากาศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบ้านยังคงอยู่ในสภาพที่ดี และพร้อมใช้งานในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม หากใครกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร ที่มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ Royal House พร้อมให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญ ด้วยประสบการณ์กว่า 38 ปีในการออกแบบ และก่อสร้างบ้านตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย หากสนใจติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse
“Royal House” บริษัทรับสร้างบ้านที่มีแบบบ้านมากกว่า 160 แบบ
Royal House เป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่โดดเด่นด้วยบริการแบบครบวงจร ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการสร้างบ้าน โดยมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ Royal House เป็นหนึ่งในบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ
หนึ่งสิ่งที่ทำให้ Royal House แตกต่างจากบริษัทรับสร้างบ้านทั่วไป คือการมีแบบบ้านให้เลือกมากกว่า 160 แบบ ซึ่งครอบคลุมทุกสไตล์ และความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น บ้านสไตล์โมเดิร์น สไตล์คลาสสิก หรือสไตล์บ้านที่ออกแบบเน้นการประหยัดพลังงาน ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าบ้านที่สร้างขึ้นมา จะตรงตามความต้องการ และตรงตามมาตรฐานที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
อีกทั้ง Royal House ยังนำเสนอแบบบ้านที่หลากหลาย โดยมีทั้งบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น และบ้านสามชั้น ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ซึ่งแบบบ้านที่บริษัทนำเสนอ มีทั้งบ้านขนาดเล็กสำหรับครอบครัวเริ่มต้น หรือบ้านขนาดใหญ่ สำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีบ้านที่ออกแบบให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย เช่น บ้านที่เน้นการถ่ายเทอากาศเพื่อความเย็นสบาย หรือบ้านที่มีระเบียงกว้าง สำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกบ้านที่เหมาะกับตนเองได้ตามต้องการ
สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้าน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ Royal House ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยแบบบ้านที่มีให้เลือกมากกว่า 160 แบบ และบริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการสร้างบ้าน คุณสามารถมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณจะถูกสร้างขึ้นด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุด และเป็นบ้านที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณ และครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์ หากสนใจติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse